Popsyz ::: This Blog is Now Yesterday.

Move from MSN space, daily update nothing

Mercy & Knowledge >>> Sacrifice & Burnt Offering

For I desire mercy and not sacrifice,
and the KNOWLEDGE of God more than burnt offerings.

[Hosea 6:6 – NKJV]

เพราะเราประสงค์ความรักมั่นคงไม่ประสงค์เครื่องสัตวบูชา
เราประสงค์ความรู้ในพระเจ้ายิ่งกว่าเครื่องเผาบูชา

[โฮเชยา 6:6 – THV1971]

จริงๆ แล้วภาษาไทยน่าจะแปลว่า พระเจ้าต้องการ “ความเมตตา” มากกว่าการมอบถวาย
ดังที่พระเยซูพูดกับฟาริสี และพวกมีความรู้ในบทบัญญัติศาสนามากๆ ในมัทธิว 9:13

สมัยก่อน ผู้เชื่อ ขอบคุณพระเจ้า นมัสการพระองค์ ด้วยการเผาสัตว์ต่างๆ เพื่อให้พระเจ้าพอพระทัย
สมัยปัจจุบัน เมื่อคริสเตียนขอบคุณพระเจ้า เขาก็พยายามจะถวายสิ่งต่างๆ ให้พระเจ้า
ไม่ว่าจะเป็นทรัพย์สิ่งของ บทเพลง การจัดกิจกรรม ฯลฯ

แต่สิ่งที่มากกว่า สิ่งที่เราต้องการจะตอบแทนกลับให้พระองค์ คือสิ่งที่พระเจ้าปรารถนา
พระองค์ต้องการ “ความเมตตา” มากกว่า

พระเจ้าตรัสว่า เรามีความพอใจในความตายของคนอธรรมหรือ
แต่เราพอใจให้เขากลับจากความชั่วของเขา และมีชีวิตอยู่มิใช่หรือ
” [Eze 18:23]

เพราะว่าพระองค์ทรงให้ดวงอาทิตย์ของพระองค์ ขึ้นส่องสว่างแก่คนดีและคนชั่วเสมอกัน
และให้ฝนตก แก่คนชอบธรรมและคนอธรรม
” [Mat 5:45]

แต่ข้อสังเกตุในหนังสือโฮเชยา ไม่เพียงแต่พระเจ้าต้องการความเมตตา พระองค์ประสงค์ให้เรามี “ความรู้ในพระเจ้า” ยิ่งเรารู้มาก เราก็รู้จักพระเจ้ามากขึ้น ความรู้ในที่นี้ ไม่ได้หมายถึงปัญญาอย่างโลก แต่หมายถึง ความรู้ ความเข้าใจเกี่ยวกับพระลักษณะของพระเจ้า ทั้งความคิด น้ำพระทัย ถ้อยคำ ความประสงค์ของพระองค์ที่มีต่อเรา

Leave a comment »

What You Have? – อะไรอยู่ในมือของเรา

Samson with jawboneครั้งหนึ่ง แซมสันสู้กับคนฟีลิสเตีย 1 พันคน (Judges 15) โดยไม่มีดาบ ไม่มีอาวุธ ไม่มีกองทัพหนุนหลัง เหมือนถึงที่ตายชัดๆ แต่แซมสันไม่ได้บ่นว่าพระเจ้า “พระองค์ไม่ยุติธรรมเลย ที่พวกเขามีดาบมีโล่” หรือไม่ได้พูดว่า “พระเจ้า พวกเขามีอาวุธ แต่ลูกไม่มี” แซมสันเข้าใจหลักการ เขาเริ่มมองดูรอบๆ ไม่ได้เห็นปืนกลหรือระเบิด แต่เห็นขากรรไกรลาสดๆ ซึ่งเป็นสิ่งธรรมดามากๆ แซมสันเชื่อว่านี่เป็นสิ่งที่พระเจ้าให้เขาเห็น เขาฆ่าศัตรู 1 พันคน ซึ่งมีอาวุธที่เยี่ยมกว่า

สิ่งที่คุณมีไม่สำคัญเท่ากับมีการเจิมของพระเจ้า เราอาจมีพรสวรรค์ต่างๆ *แต่ด้วยการเจิมจากพระเจ้าสูงสุด เราจะไปได้ไกลกว่าคนที่มีพรสวรรค์คุณรู้หรือไม่ว่าคุณมีอะไร?” การแก้ปัญหา การทะลุทะลวง ธุรกิจใหม่ๆ ความคิดสร้างสรรค์ อยู่ในมือของคุณ แล้วเมื่อเทียบกับสถานการณ์ มันอาจดูเล็กน้อย แต่ถ้าเรากล้าใช้สิ่งที่มีนี้ เราก็เอาชนะยักษ์ด้วยสิ่งเล็กๆ ได้ … ทั้งดาวิดและแซมสันก็ออกรบโดยไม่มีอาวุธ ไม่มีดาบ เขาทั้งสองไม่มีเครื่องบินรบ แต่พวกเขามีสลิง และขากรรไกรลา ถ้าเรารู้ว่าพระเจ้าเป็นผู้ประทานให้ เราจะปลอดภัย ไปด้วยความมั่นใจ รู้ว่าเราเองถูกใช้โดยพระเจ้าผู้สร้างจักรวาล

donkey_jaw คุณอาจบอกว่า ฟังดูดี แต่ไม่มีอะไรเลย ไม่มีเงิน “ไม่ใช่ คุณมีอะไรที่คล้ายกับขากรรไกรลาหรือสลิงหรือเปล่า?

บางสิ่งที่เรามีในชีวิตเวลานี้ อาจเป็นสิ่งที่ทำให้เราสร้างประวัติศาสตร์ พระเจ้าลิขิตให้เราทิ้งสิ่งจดจำไว้ให้ชนรุ่นนี้ เราไม่สมควรเป็นคนที่เกิดมาแล้วก็จากไป โดยไม่มีใครรู้ว่ามีเราอยู่ เรามีเมล็ดพันธุ์แห่งความยิ่งใหญ่อยู่ภายใน เมื่อเวลาของเราหมดลง โลกนี้ควรจะย้อนกลับไปดูและบอกว่า “โอ้ว พวกเขาเป็นผู้ฆ่ายักษ์ พวกเขาเป็นผู้สร้างประวัติศาสตร์ พวกเขาสร้างพิภพใหม่ให้แผ่นดิน พวกเขาทิ้งมรดกแห่งความเชื่อเอาไว้

ความฝันคุณอาจจะใหญ่ และคุณมีเพียงเล็กน้อย แต่อย่าเสียกำลังใจ พระเจ้าตรัสว่า “ถ้าเจ้าใช้สิ่งที่มี เราจะทวีคูณพรสวรรค์ให้ เราจะทวีคูณทรัพยากรต่างๆ ให้” ผม (Osteen) จะขอเผยพระวจนะว่า คุณจะชนะยักษ์โดยไม่มีอาวุธ คุณจะทำเป้าหมายสำเร็จโดยไม่มีอะไรเลย!

ยักษ์อาจจะใหญ่ แต่พระเจ้าสูงสุดมีฤทธิ์อำนาจมากกว่านั้น นี่ไม่ใช่เวลาแก้ตัว หรือให้ผู้คนพูดถึงคุณเป็นแค่คนธรรมดา แต่นี่เป็นเวลาสูงขึ้น จงรู้เถิดว่าเรามีอะไร Everything you need to fulfill your destiny is within reach. โยเอล 3 บอกว่า
จงเตรียมทำการรบ จงปลุกใจคนฉกรรจ์ทั้งหลาย” ใครคือคนฉกรรจ์?
คือคนที่ตระหนักว่าพวกเขามีพระเจ้าผู้สร้างจักรวาล คอยนำทางอยู่ รู้ว่าตัวเองนั้นมีอะไร

DavidGoliathผมมีเพื่อนคนนึง ฝันจะเริ่มธุรกิจของตัวเอง เขาต้องการให้แบงค์สนับสนุนเงินกู้จึงจะทำกิจการนี้ได้ เขาเลยไปหาและใช้เวลาหลายปี แต่พวกเขากลับปฎิเสธ โดยบอกว่าไม่ใช่ไอเดียที่ดี เขาไปหลายต่อหลายแบงค์ “เข้าใจนะครับว่า พระเจ้าไม่ได้สัญญากับใครอื่น แต่เป็นคุณ” คนอื่นทั่วไปอาจไม่เห็นสิ่งที่คุณเห็น … 31 แบงค์ปฎิเสธเพื่อนของผม แต่คุณต้องตัดสินใจว่า จะเชื่อสิ่งที่คนเขาพูดกัน หรือไปต่อกับสิ่งที่เชื่อ เพื่อนผมมีเงินอยู่ 150 เหรียญ แต่ต้องการเงินหลายแสนเหรียญตามที่วางแผนไว้ แต่เขาเอาสิ่งที่มี แล้วก็นำเครื่องมือ 2-3 อย่าง เริ่มธุรกิจ ลูกค้าคนแรกชอบงานเขามาก เลยทำสัญญา 1 ปี 31 แบงค์ปฎิเสธแต่แบงค์ที่ 32 ตอบตกลง ทุกวันนี้เขามีเงินหลายพันล้านเหรียญ เติบโตเรื่อยๆ เป็นธุรกิจที่ประสบความสำเร็จ … เกิดอะไรหรอ เขาก็เอาชนะยักษ์ได้ด้วยสิ่งที่ไม่มี

Seed will be Treeเมื่อพระเจ้าประทานความฝันให้ พระองค์ประทานในรูปแบบของเมล็ด อย่างถ้าเรามีความฝันว่าจะมีต้นโอ๊คใหญ่ๆ พระเจ้าไม่ได้ให้ต้นโอ๊คมาเลย พระเจ้ากำลังให้อะไรเรา อะไรที่เราพบตอนนี้ The opportunity for promotion is close to you. The solution you are looking for is within your reach. พระเจ้าได้จัดเตรียมใครก็ตาม ที่จำเป็นต่อเราไว้แล้ว เลิกบอกตัวเองว่า ไม่มีคอนเนคชั่น เราอาจไม่รู้ว่าพระเจ้าได้ใส่อะไรไว้ตามทาง ไม่รู้ว่าอะไรที่หยิบจับได้ … อาจเป็น ไอเดียนึง เสียงโทรศัพท์นึง ที่เราจะก้าวจากสิ่งที่กำลังฝันไปสู่ฝันที่เป็นจริง พระเจ้าให้มัดจำเราไว้แล้ว ไม่ว่าจะเป็น ของขวัญ พรสวรรค์ ความคิด ความสร้างสรรค์ ทรัพยากรต่างๆ อาจไม่มาหรอก แต่เมื่อเราเปิดมัน ก็จะค้นพบสิ่งที่พระเจ้านำ

Lepers in Syria's Campใน 2 Kings 7 กองกำลังศัตรูได้ตัดเสบียง มีคนโรคเรื้อนอยู่นอกเมือง พวกเขาคงไม่ได้บ่นที่ไม่ได้เข้าเมืองเพราะโรค และแย่กับชีวิต คนนึงพูดขึ้นมา “เราจะนั่งที่นี่จนตายทำไมเล่า … ถ้าเรานั่งที่นี่เราก็ตายเหมือนกัน ถ้าเขาฆ่าเรา ก็ได้แต่ตายเท่านั้นเอง” โดยธรรมชาติแล้ว พวกเขาไม่มีโอกาส แต่เมื่อเราทำสิ่งธรรมดา พระเจ้าจะทำสิ่งไม่ธรรมดา พระคัมภีร์บอกว่า “พระเจ้าได้ทรงกระทำให้กองทัพของคนซีเรียได้ ยินเสียงรถรบ เสียงม้า และเสียงกองทัพใหญ่” คนโรคเรื้อนได้ช่วยชีวิตคนอื่นในเมือง พวกเขากลายเป็นฮีโร่ เสียงเดินของพวกเขาไม่มากเท่าไหร่ แต่ขอท้าให้ก้าว ส่งเสียง มีนิมิต เราจะมีวิญญาณแห่งความเชื่อ

ดาวิดจะชนะโกลิอัทไม่ได้ และไม่เคยบันทึกในประวัติศาสต์ ถ้าไม่รู้ว่าพระเจ้าเป็นผู้ส่งสลิงมา แซมสันจะชนะฟีลิสเตียไม่ได้ถ้าไม่รู้ว่าใช้ขากรรไกรลาได้ ไม่ใช่เรื่องบังเอิญที่มีขากรรไกร พระเจ้าใส่มันไว้ หลักการเดียวกัน พระเจ้าก็ใส่ผู้คนไว้ในชีวิตของคุณ ทรงใส่โอกาสเข้ามา ใส่สิ่งต่างๆ เหมือนจะสังเกตุไม่ได้ แต่การเจิมจากพระเจ้าจะสังเกตุได้ พระองค์ได้เปิดประตูที่ไม่มีใครปิดได้ คุณกำลังก้าวเข้าไปในระดับใหม่แห่งชีวิต เป็นการอวยพรที่เป็นพลุแตก ให้เราเชื่อและประกาศออกไปในนามพระเยซู

Recognizing What You Have by Joel Osteen
(http://www.youtube.com/watch?v=E0tIpBiy9x8)

Addition: #Sign in Bible
– ภาพที่ชาวฟีลิสเตียจับแซมสัน = อำนาจมารที่ตั้งใจทำร้ายพระเยซู ขณะที่พระองค์เสด็จเข้ามาในโลก
– เชือกพวน 2 เส้นที่ด้อยกว่ากำลังแซมสัน = พระเยซูมีอำนาจ แต่ยอมจำนนแต่โดยดี
– กระดูกขากรรไกรลา = ลาที่ตายเพราะถูกทำร้าย = พระเยซูยอมถูกเฆี่ยนตี ตบแก้ม (Mec 5:1; Isa 50:6; Job 16:10) * เหตุการณ์เกิดขึ้นที่เมือง Lehi แปลว่า ขากรรไกร หรือ แก้ม
– แซมสันโยนกระดูกทิ้งไป = การไถ่บาปเพียงครั้งเดียวก็เพียงพอ ไม่ต้องตายอีก
** โยนขากรรไกรทิ้งที่ Ramath-Lehi แปลว่า ขากรรไกรที่อยู่สูง

1 Comment »

Praise from God – คนที่พระเจ้ายกย่อง (1)

ปกติ พระเจ้ามิได้มีหน้าที่ต้องยกย่อง สรรเสริญใคร เพราะพระเจ้าเป็นผู้สูงสุด ที่สมควรได้รับคำชื่นชม แต่ในพระคัมภีร์มีตอนหนึ่ง กล่าวเช่นนนี้จริงๆ ว่าพระเจ้าสรรเสริญมนุษย์ “Whose praise is not from men but from God” [Rom 2:29]

พระคัมภีร์ในโรม คือตอนที่พูดถึงคนเข้าสุหนัต พระเจ้ายกย่อง คนเข้าสุหนัตทางใจ (ซึ่งเป็นการเข้าสุหนัตแท้) มิใช่ทางกาย [สุหนัตคือ การตัดปลายหนังอวัยวะของผู้ชาย ซึ่งมีความหมายลึกซึ้งมากในพระคัมภีร์ คนในปัจจุบันอาจไม่เข้าใจ เป็นสัญลักษณ์ของการแสดงความเชื่อ และการทำพันธสัญญาร่วมกับพระเจ้า] ในที่นี้ การเข้าสุหนัตทางใจ คือ ประพฤติตนตามบัญญัติ ซึ่งหมายถึงการเชื่อฟังพระเจ้านั่นเอง

Jesus and Centurionนายร้อยชาวโรมัน ::: (Matt 8:5-13; Luke 7:1-10) นายร้อยคนหนึ่งมีคนใช้หรือทาส ที่รักมาก และป่วยใกล้ตาย และคงเคยได้ยินกิตติศัพท์ของพระเยซูมามาก จึงขอให้พระเยซูรักษา โดยพื้นเพแล้ว นายร้อยคนนี้
– รักและทำคุณงามความดีให้กับคนยิว ซึ่งคนโรมันทั่วไปไม่ทำกัน (Luke 7:5)
– เขายกย่อง ให้เกียรติพระเยซูมากเหลือเกิน ขนาดที่พูดว่า “ข้าพระองค์เป็นคนไม่สมควรที่จะรับเสด็จพระองค์เข้าใต้ชายคาของข้าพระองค์
– และยังเป็นคนมีความเชื่อสูง เชื่อว่า แค่พระเยซูตรัสโดยไม่ต้องพบคนป่วย ก็เพียงพอแล้ว เขากล่าวว่า “ขอพระองค์ตรัสเท่านั้น บ่าวของข้าพระองค์ก็จะหายโรค
– รู้จักลำดับของสิทธิอำนาจทหาร-ฝ่ายวิญญาณ “ข้าพระองค์อยู่ใต้วินัยทหาร แต่ก็ยังมีทหารอยู่ใต้บังคับบัญชาของข้าพระองค์ ข้าพระองค์จะบอกแก่คนนี้ว่า ‘ไป’ เขาก็ไป บอกแก่คนนั้นว่า ‘มา’ เขาก็มา บอกทาสของข้าพระองค์ว่า ‘จงทำสิ่งนี้’ เขาก็ทำ” คำพูดนี้ แสดงว่าเขายกให้พระเยซูมีสิทธิอำนาจสูงสุดในฝ่ายวิญญาณ เขามีความเชื่อว่าพระเยซูมีอำนาจสั่งโรคภัยไข้เจ็บให้หายได้
– พระเยซูชื่นชมเขา โดยกล่าวว่า “เรา *ไม่เคย* พบศรัทธา (Great FAITH) มากเท่านี้ แม้กระทั่งในอิสราเอล” และพระเยซูแค่ตรัสว่า “จงได้ผลตามศรัทธานั้น” ทาสนั้นก็หายโรค

Woman who flew of bloodผู้หญิงตกโลหิต ::: (Matt 9:20-22; Mark 5:25-34; Luke 8:43-48) ในสมัยที่พระเยซูดำเนินอยู่บนโลกนี้ มีผู้หญิงคนหนึ่ง ซึ่งพระคัมภีร์บรรยายความทุกข์ของเธอชัดว่า
– “เป็นโรคตกโลหิตได้สิบสองปีมาแล้ว
– “ได้ทนทุกข์ลำบากมามาก
– “มีหมอหลายคนมารักษา
– “ไม่มีผู้ใดรักษาให้หายได้
– “ได้เสียทรัพย์จนหมดสิ้น
– “โรคนั้นก็มิได้บรรเทา แต่ยิ่งกำเริบขึ้น
เป็นภาพแห่งความเจ็บปวด และทรมานแสนสาหัส … เธอพยายามจะแตะชายเสื้อของพระเยซู เพื่อจะหายโรค และเธอก็หาย โลหิตก็หยุดตก พระเยซูจะปล่อยผ่านไปเลยก็ได้เมื่อรู้ว่ามีฤทธิ์ซ่านแห่งการรักษาออกจากพระองค์ แต่พระองค์กลับถามหาว่า “ใครได้ถูกต้องเรา” เพื่อจะพบเธอ และอวยพรเธอ “ลูกหญิงเอ๋ย ที่เจ้าหายโรคนั้นก็เพราะเจ้าเชื่อ จงไปเป็นสุขและหายโรคนี้เถิด

Mary_Feet04นางมารีย์ มักดาลา ::: (Matt 26:6-13; Mark 14:3-9; Luke 7:36-50; John 12:1-8;) พระกิตติคุณทุกเล่มอาจไม่ได้เอ่ยถึงเรื่องเดียวกัน แต่เรื่องของหญิงสาวคนนี้ ทั้ง 4 เล่มต่างบันทึกไว้หมด ในขณะที่ ยอห์น เป็นผู้เดียวที่ได้เอ่ยชื่อ ว่าผู้หญิงคนนี้คือมารีย์ (11:2) ส่วนลูกาบันทึกว่าเป็นหญิงชั่ว พระเยซูตรัสว่าเธอ
– “ได้กระทำการดีแก่เรา” โดยเธอซื้อน้ำมันหอมนาระดาที่มีราคาแพงเท่ากับค่าแรงทั้งปีมาโชลมพระเยซู ทั้งที่บางคนเห็นว่าควรเอาเงินที่มากนั้นแจกจ่ายให้คนจน
– “การซึ่งผู้หญิงนี้ได้กระทำก็จะลือไปเป็นที่ระลึกถึงเขาที่ไหนๆ ที่ข่าวประเสริฐจะประกาศทั่วพิภพ” ด้วยเหตุนี้พระกิตติคุณ 4 เล่มจึงต่างบันทึกเรื่องนี้หมด ส่วนในลูกาได้บันทึกเพิ่มเติมว่า “ขณะที่เจ้าบ้านมิได้ต้อนรับพระองค์เยี่ยงนี้ แต่หญิงนี้กลับล้างเท้า เอาผมตัวเองเช็ดให้ เหตุเพราะคนที่ทำผิดบาปมาก ก็ได้รับการยกหนี้มากกว่าคนที่คิดว่าตัวเองบาปน้อย
– นอกจากนี้ ในตอนอื่นๆ ยังแสดงให้เห็นว่ามารีย์เข้าใจสิ่งที่พระเยซูตรัส มากกว่าสาวกคนสนิทเสียอีก ในการเล็งถึงการทำศพของพระเยซู และอีกตอนหนึ่งที่พระเยซูชมว่าเธอ “ได้เลือกเอาส่วนดี” (Luke 10:42) ที่คอยใกล้ชิดฟังพระคำไม่ห่าง ขณะที่คนอื่นมัวแต่วุ่นวายใจในการปรนนิบัติด้านอื่น

หญิงม่าย ::: (Mark 12:41-44; Luke 21:4) พระเยซูทรงเฝ้ามองผู้คน และรู้รายละเอียดการใช้เงินของแต่ละคน พระองค์ชื่นชมหญิงม่าย เธอมีเพียงน้อยนิด แต่ให้หมดทั้งชีวิต เรื่องนี้เคยเขียนไปแล้วเป็นพิเศษถึงเธอใน Blog เก่าๆ [ https://popsyz.wordpress.com/tag/การถวาย/ ]

สรุป ความรักและการสำนึกในพระคุณที่มีต่อพระเจ้าอย่างมารีย์ ความเชื่ออย่างนายร้อยและหญิงโลหิตตก หัวใจที่มอบทั้งหมดอย่างหญิงม่าย … ทำให้พระเจ้าชื่นชม และพอพระทัย

ยังมีเรื่องราวอีกมากในพระคัมภีร์ไบเบิ้ลที่ไม่อาจยกมาได้หมด ว่าพระเจ้าพอพระทัยสิ่งใดอีกบ้าง เยอะมากค่ะ เช่น การถวายเครื่องบูชา (Gen 8:21) การเชื่อฟัง (1 Sam 15:22) ฯลฯ

Note: การเขียนบทความวันนี้ ทำให้อยากค้นคว้าคำว่า “กลิ่นที่พอพระทัย” ในการถวายเครื่องบูชาซึ่งปรากฎบ่อยครั้งในคราวต่อไป

Leave a comment »

2013 Year of Victory

ขณะที่วันนี้อธิษฐาน อ่านพระคัมภีร์ อยู่ดีๆ ก็ร้องเพลงๆ นี้ขึ้นมา

I will bring praise, I will bring praise

No weapon form against me shall remain

I will rejoice, I will declare

God is my victory and He is here! …

 

All of my life, in every season, You are still God

I have a reason to sing, I have a reason to worship

พระวิญญาณคงจะนำให้ปีนี้ เป็นปีแห่งชัยชนะจริงๆ ^_^ ขอบคุณพระองค์

Leave a comment »

Above My Ways – สูงกว่าจะคิดได้

วันนี้ก็ได้รู้สิ่งที่เคยสงสัยไม่กี่วันก่อนว่า “พระเจ้าจะเปลี่ยนสิ่งร้ายกลายเป็นดีได้อย่างไร?
ในเมื่อพระองค์ก็สัญญาเอาไว้ ว่าจะช่วยคนที่รักพระองค์ให้เกิดผลอันดีใน “ทุกสิ่ง
แถมในชีวิตตั้งแต่เกิด ไม่ใช่ครั้งเดียวที่รู้สึกว่า “พระเจ้าไปอยู่ที่ไหน ในเวลาที่เราต้องการ?

เพราะวันก่อนๆ ลูกเจ็บปวด และทรมานมากถึงมากที่สุด กับอาการป่วยที่หาสาเหตุไม่ได้
คือมันปวดกระดูก นอนก็ปวดทั้งตัว แขน ขา แถมเป็นไข้ ปวดหัว หนาวสั่น และหวาดหวั่นต่อข้อสันนิษฐานต่างๆ
แต่เมื่อวานก็ต้องออกจากบ้าน เพราะช่วงปีใหม่ ไม่มีอะไรให้กิน ให้สั่ง ต้องไปห้างเท่านั้น ซึ่งคนตรึมมากๆ
และตั้งใจจะมาหาแม่ด้วย เผื่ออยู่คนเดียว ไม่มีใครเก็บ แต่ถ้าอยู่กะแม่ มีอะไรเค้าก็ช่วยเหลือเรา

เพิ่งนึกได้ไม่นานมานี้ว่าซื้อประกันเมื่อกลางปี หมดเปลืองเวลากับการ เข้า-ออก โรงพยาบาล โน้นนี้ 4-5 แห่ง
เพราะเกี่ยวกับเรื่องค่าใช้จ่าย เบื่อหน่ายประกันสังคมโรงพยาบาลเอกชน เบื่อหน่ายบริการโรงพยาบาลรัฐบาล
ไม่รู้จะคิดนโยบายบัตรทอง กะประกันสังคมเพื่ออะไร เมื่อไม่มีความเป็นธรรมในหมู่คนจน คิดแล้วก็ไปซื้อหุ้นเอกชน

วันนี้พยายามไม่กินยา เพราะตั้งแต่โดนลิงกัด เทคพารามาเป็น 10 วันแล้ว เนื่องจากบอบช้ำจาก 8 เข็ม
เพื่อนก็ชวนไปกินซูชิเดนที่เซนทรัลลาดพร้าว อืิมม ไหนๆ ก็ไม่อยากเสียเวลานอนซมอยู่บ้าน ออกก็ได้
เพราะวันนี้ดีกว่าเมื่อวาน นั่งได้ ขับรถได้ เดินได้ แต่ยืนอยู่กับที่เมื่อไหร่ เหมือนกระดูกขาโดนน้ำยาล้างห้องน้ำ
รู้สึกพรุนและปวดร้าว ยืนเฉยๆ ไม่ได้ เอาวะ กินไม่ได้ใช้กระดูก ก็แค่ใช้ปากและฟัน 😛

ตอนกินก็โอเค อร๊อย อร่อย แต่พอกินเสร็จ หมดเวลา Enjoy Eating ดันปวดขาแบบว่าอยากหาหมอ
เปิด GPS โรงพยาบาลใกล้สุดก็คือ ราชวิถี ยืนยันกะเพื่อนว่าไม่เอาที่นี่เด็ดขาด
เคยไปประกาศ อธิษฐานเผื่อคนอยู่หลายครั้ง และเคยไปของตัวเองครั้งนึง ช่างอานาถาที่สุดของที่สุด
โรงพยาบาลส่วนใหญ่ไกลหมด สุดท้ายก็ต้องยอม เพราะรถติดมาก ไปถึง แผนกฉุกเฉิน คนเยอะมาก

เพื่อนเห็นโรงพยาบาล บอกว่า อย่างกะฉากถ่ายหนังสยองขวัญ ทั้งทางเดิน ประตู หน้าต่าง ฯลฯ
ผู้คนสภาพอิดโรย น่าสงสาร ดูมีอาการทางประสาทกันเป็นส่วนใหญ่ สีหน้าหมดหวัง ทนทุกข์ อาลัยตายอยาก
ดีอยู่อย่างนึง ที่หมอที่นี่รอนานหน่อย ประมาณว่าหมอดี ใส่ใจคนไข้ ไม่เหมือนประกันสังคม ทุกคนได้ 30 วินาที
นานแค่ไหน ก็เอาเป็นว่ามาตั้งแต่ตอนเย็นๆ ได้กลับบ้านราวๆ เกือบเที่ยงคืน 555 แล้วหมอก็ไม่รู้จะตรวจยังไง
เลยจับตรวจเลือด ทั้งที่ตอนแรกหมอบอกว่าตรวจไม่ได้ ต้องรอพรุ่งนี้ แต่เคสเราเร่งด่วน หมอเลยหาโอกาสให้

ไอ้ส่วนที่จะตรวจเลือดนี่ เป็นไฮไลท์ ไคลแม็กซ์ของคืนนี้เลย เป็นการเปิดเผยของพระเจ้า
ว่าทำไมเราถูกกำหนดให้มาที่นี่ และมันก็เกี่ยวพัน เชื่อมโยงกับสิ่งที่พระเจ้าสำแดงเมื่อวันปีใหม่ในพระคำ
ไม่ว่าจะส่วนไหน ก็ต้องรอคอยอยู่เสมอ รอนานมั่ก เวลาดึกดื่น แต่คาดว่าคนเยอะกว่าช่วงกลางวันเสียอีก

เพื่อนในพระคริสต์ที่มาด้วยนี่ (ขอปิดชื่อเป็นความลับเดี๋ยวจะเสียหาย 55) หันไปเห็นพี่ผู้หญิงคนหนึ่ง
เรียกให้เราดูที่ข้อมือของเขา เราเห็นแล้วต้องบอกว่าตกใจมว๊าก ที่รอยมีดกรีดถี่ยิบไปทั่วทั้ง 2 แขน
ทั้งแผลใหม่สด แผลเป็น ถ้าลองนับดู น่าจะได้ซักข้างละ 50 แผล คนอะไรจะอยากทำร้ายตัวเองขนาดนี้!
เอาเป็นว่าโรงพยาบาลนี้ เป็นแหล่งรวมคนที่ปกติจะไม่อาจเห็นได้ตามท้องถนนทั่วไป หรือแม้แต่ใน 7/11

เพื่อนเกิดภาระใจอยากบอกเล่าเรื่องราวพระเยซูขึ้นมาทันที เค้าจะได้เห็นคุณค่าตัวเอง
และรู้ว่าพระเจ้าสร้างเค้ามา และรักเค้ามาก เราก็เห็นด้วยเต็มที่ พระเจ้าอาจจะวางเราไว้ในเหตุการณ์นี้
พอน้ำพระทัยพระองค์บรรลุ มิชชั่นนี้สำเร็จเมื่อไหร่ เราอาจหายดีเลยก็เป็นได้ พอเราเจาะเลือดเสร็จ
อยากสูดอากาศ เดินออกมาข้างนอก พี่คนดังกล่าว นาม น. เดินเข้ามาทักว่าเราไปโดนอะไรมา
ก็บอกเจาะเลือดค่ะ พอเค้าจากไป ก็เดินไปหยิบใบปลิวในรถมาเตรียมไว้ เพื่อนให้เราซื้อชาเผื่อเขาด้วย

ไม่นานนัก มีโอกาสได้คุยกับพี่ น. อีกครั้ง ทำให้รู้ว่าเขามา รพ. นี้จนชิน พาน้อง พาหลานเข้าบ่อย
รับผิดชอบต่อครอบครัวสูง เขาเป็นคนตลกมาก บอกเป็นอิสลาม แต่ขายข้าวขาหมูให้คนอื่นกิน ตัวเองไม่กิน
และค่อนข้างปิดใจ ทำให้เพื่อนไม่ค่อยกล้าพูดเรื่องพระเจ้า หรือแม้กระทั่งแจกใบปลิวให้ ชาที่ซื้อมาเลยเหลือ
แต่ก็พยายามบอกเขาว่าพระเจ้ารักเขา แม้เขาจะไม่สนใจก็ตาม … และเราก็ยังปวดขาอยู่เหมือนเดิม

ช่วงนี้ที่เดินเข้าออกเคาท์เตอร์ ทวงผลแลบอยู่หลายรอบ ก็บอกรอหมอๆ มีคิวเยี่ยมคนไข้ที่เตียงเยอะ
น้องผู้ชายคนนึงเค้าบอกว่าเค้าเคยมาตรวจ ต้องรอ 2 ชั่วโมง (ไม่ใช่ชั่วโมงเดียวอย่างที่เราเข้าใจนะ 55)
ก็เลยถามเค้าว่ามาบ่อยหรอ เป็นอะไร และก็ต้องตกใจเมื่อเค้าบอกว่าเป็นมะเร็งมา 10 ปีแล้ว
โอย เรื่องหญิงสาวที่ตกเลือดมา 12 ปีเข้ามาในหัว ไบเบิ้ลว่าเธอทุกข์ทรมานแค่ไหน หมดเงิน หมดหวัง
หันไปบอกเพื่อนด้วยใจร้อนรน “I really want to pray for him” ขอบคุณพระเจ้าที่เพื่อนมีหัวใจเพื่อสิ่งนี้
เลยชวนน้อง อ. ออกไปนั่งคุยข้างนอกกันมั๊ย เขายิ้มแย้มแจ่มใส โอเคทันที เล่าเรื่องราวพระเจ้าให้เค้าฟัง
พระเจ้ายิ่งใหญ่ สร้างโลก สร้างเรา รักเรา ตายแทนเรา รักษาเราได้ แม้หมอจะไม่สามารถก็ตาม ฯลฯ

น้องเขาตื่นเต้นมาก ระหว่างที่ใช้เวลาอธิษฐานเผื่อเขา เขาน้ำตาไหลและสัมผัสความรักพระเจ้า
เลยถามว่าอยากรู้จักพระเจ้ามั๊ย เขาเต็มใจอธิษฐานต้อนรับ และยอมรับการช่วยเหลือจากพระเจ้าเต็มที่
หัวใจข้างในตอนนั้นเปรมปรีดิ์สุดขีด เคยได้ยินเพื่อนโบสถ์อื่นเล่าว่าประกาศ แล้วคนอยากรู้จักพระเจ้ามานานแล้ว
ไม่เคยประสบมาก่อนในชีวิต เพราะเจอแต่คนใจแข็ง นี่เป็นคนแรกที่ทำให้เห็น “ทุ่งนาก็เหลืองอร่ามแล้ว
ตื่นเต้น ยินดี แฮปปี้ เป็นความสุขขีดสุดของชีวิต และพร้อมจะลืมอาการเจ็บปวดของตัวเองทิ้งไป
หันไปบอกเพื่อนว่า เราหายแล้ว (ไม่ใช่เพราะอาการ แต่เพราะเชื่อ ขณะที่ความเชื่อกำลังพุ่งปรี๊ดดด)
อ้อ … โออิชิที่ซื้อมา ไม่เสียเปล่า แถมให้น้อง อ. ไป ซาบซึ้งอย่างกะได้ทองอีกต่างหาก พระเจ้ารักเขาจริงๆ

นี่ไง ที่คิดว่าทำไมต้องเริ่มต้นปีด้วยสิ่งเลวร้าย? แต่กลับกลายเป็นเรื่องดีที่สุดที่เคยเจอ และเริ่มต้นปีด้วยดีต่างหาก
จริงๆ ไม่อยากเล่าเรื่องของน้อง อ. ให้ใครฟัง ยังมีอีกมาก แต่อยากบันทึกสิ่งดีที่พระเจ้าทำกับเราตั้งแต่ต้นปี
เราเริ่มเข้าใจสิ่งที่พระเจ้าตรัสกับเราวันปีใหม่ 2013 นี่บ้างแล้ว พระเจ้าทำตามสิ่งที่สัญญาเอาไว้เสมอ
พระเจ้าฉลาดกว่าเรา พระองค์มีหนทางที่อยู่เหนือกว่าความคิดที่เราจะคิด หรือพาตัวเองไป ณ จุดนั้นได้!
มีความคิด อะไรอีกมากมายที่เกิดขึ้นจากเรื่องนี้ แต่ขอแชร์เพียงแค่นี้ เพื่อไม่ให้รั่วไหลเกินไปกว่าคำอธิษฐาน

เหตุการณ์เพียงชั่วขณะเดียว กลับเปลี่ยนแปลงเราไปมาก ที่เจอมาทั้งปี 2012 เหมือนได้รับแรงพลังมหาศาล
เหมือนจิตวิญญาณถูกฟื้นฟูเป็นวิญญาณที่สดใหม่ มีชีวิตชีวา อยากสรรเสริญ อยากเห็นผู้คนได้รับการช่วยเหลือ ฯลฯ
ขอบคุณพระเจ้า ที่พาลูกเข้าไปเห็นอะไรมากมาย มีผู้คนมากมายในโลกนี้ที่ไม่เคยได้ยิน และรอคนไปบอกพวกเขา!!! คุณเป็นหนึ่งในนั้นด้วยค่ะ

เพราะความคิดของเราไม่เป็นความคิดของเจ้า
ทั้งทางของเจ้าไม่เป็นวิถีของเรา พระเจ้าตรัสดังนี้

เพราะฟ้าสวรรค์สูงกว่าแผ่นดินโลกฉันใด วิถีของเราสูงกว่าทางของเจ้า
และความคิดของเราก็สูงกว่าความคิดของเจ้าฉันนั้น

Isaiah 55:8-9

1 Comment »

Works of the Lord and Priority of Jesus – ชัยชนะ และลำดับความสำคัญ

ก่อนอื่น สวัสดีปีใหม่ 2013 ผู้อ่าน และตัวเอง (เพราะวันนึงตัวเองจะกลับมาอ่าน) 555

เมื่อวาน ส่งท้ายปีเก่า เป็นวันที่กลับมาจากลพบุรีเข้าสู่ กทม (หลังจากลี้ภัยไปอยู่ได้ 1 เดือน) ในขณะที่คน กทม ออกไปเที่ยว ตจว ไม่รู้ทำไมปีนี้อยากไปลอง Count Down ทั้งที่ตั้งแต่เกิดมา เป็นเด็กกรุงเทพ กลับไม่เคยไปเคาท์เลย แต่พอตกเย็นเริ่มจำได้ ว่าที่นึกครึ้มอกครึ้มใจได้ เพราะฤทธิ์ยาพารา เนื่องจากเริ่มมีไข้ หนาวสั่น ขึ้นมา ทำให้ความอยากลดลงเหลือศูนย์ 0 และต้องข่มตาหลับนอนก่อนข้ามปี กับเสียงพุที่ดังอยู่รอบทิศทาง เพื่อจะไม่ต้องรู้สึกถึงอาการใดๆ

สิ้นปีทีไร ก็จะมีความรู้สึกนี้ทุกครั้งคือ รู้สึกว่า 1 ปีช่างผ่านไปอย่างรวดเร็ว เหมือนยังไม่ได้ทำอะไรที่คุ้มค่าแก่เวลา และไม่อยากให้ถึงปีใหม่เลย เพราะวันนี้ ตื่นมา ก็เหมือนฝัน ในความจริงที่รับไม่ได้ว่านี่คือ 2013 เสียแล้ว ตื่นมาก็ตะเกียกตะกายฝ่าความหนาวลงมากินยาข้างล่าง ก็ถามพระเจ้าว่า ทำไมหนอ ลูกต้องป่วยข้ามปี เริ่มปีใหม่ด้วยอารมณ์เยี่ยงนี้ และสงสัยในสิ่งที่พระองค์บอกว่า “จะช่วยคนที่รัก ❤ พระองค์ ให้เกิดผลอันดีในทุกสิ่ง” ได้อย่างไร? เพราะไม่เพียงแต่เป็นไข้เท่านั้น ยังปวดกระดูกแขนขาไปทั่วตัว ไม่รู้ว่าเป็น Effect ของเซรุ่มต่างๆ ที่ฉีดเข้าไป 8 เข็มแล้วหรือเปล่า ดูปางตายมากๆ

แต่แล้วข้อพระคำที่ว่า “I shall not die, but live and declare the works of the LORD” ก็เข้ามาดังอยู่ในหัวอย่างหนักแน่น สวนทางกับอาการ แล้วก็เปิดพระัคัมภีร์ที่วางอยู่ใกล้ๆ กวาดตาอ่านมาที่หนังสือ ลูกา 4

Temp Jesusพระเยซูถูกมารทดลองถึง 3 ครั้ง โดยพระคัมภีร์ใช้คำว่า “มารนำพระองค์ไป” โอ้ววว ทำไมๆ พระเยซูปล่อยให้ซาตานนำไป พระองค์มิมีอำนาจไล่หรือ? แน่นอน พระเยซูต้องมีสิ แต่พระเยซูก็ยอมให้มารนำไปโดยดี
1. ครั้งแรก เป็นเรื่องของเนื้อหนัง การกินดื่ม ที่พระเยซูประกาศว่า “มนุษย์จะบำรุงชีวิตด้วยอาหารสิ่งเดียวหามิได้
2. ครั้งที่ 2 เป็นเรื่องของ การเลือกศรัทธาข้างพระเจ้า พระองค์ประกาศว่า “จงกราบนมัสการพระองค์ผู้เป็นพระเจ้าของท่าน และปรนนิบัติพระองค์แต่ผู้เดียว
3. ครั้งที่ 3 เป็นเรื่องของสถานะและการใช้สิทธิอำนาจที่มี พระเยซูตอบมารว่า “อย่าทดลองพระองค์ผู้เป็นพระเจ้าของท่าน
… การทดลองทั้ง 3 นี้ พระเจ้าให้เห็นการตกอยู่ในสถานการณ์ที่ต้องต่อสู้ การเลือกทางออก และมารก็รู้พระคำพระเจ้า อ้างพระคำพระเจ้า แต่สุดท้ายแล้วพระเยซูก็สามารถผ่านทั้ง 3 ด่านมาอย่างมีชัยชนะ โดยพระคำของพระเจ้า
… ในตอนนี้เอง ที่พระเจ้าสำแดงว่า ปี 2013 นี้ จะเป็นปีแห่งชัยชนะของเรา เรารู้สึกเหวอๆ อยู่เหมือนกัน เพราะถ้ามองดูอาการแล้ว มันเวรี่แบ๊ดดด อ้อ พระเจ้าจะรักษาให้หาย และประกาศว่าพระองค์ยิ่งใหญ่ กระนั้นหรือ??? (ย้อนกลับมาบันทึก :: ตอนนั้นยังไม่เข้าใจแผนการพระเจ้าหรอก ถ้าอ่าน Blog วันต่อๆ ไป จะรู้ว่าพระเจ้ายิ่งใหญ่แค่ไหน มากกว่าที่เราคิด หรือสงสัยซะอีก)
อ่านตรงนี้จบ เหมือนพระเจ้ากำลังบอกเราว่า ปีนี้จะเป็นปีชัยชนะของเรา และนี่คือการอ่านพระคัมภีร์วันแรกของปี 2013!

พออ่านมาถึงข้อ 18นำข่าวดีมายังคนยากจน…” พักนี้รู้สึกได้รับแนวทางนี้บ่อยแฮะ
และเมื่อถึงข้อ 40พระองค์ก็ทรงวางพระหัตถ์ถูกต้องเขาทุกคน ให้เขาหายโรค” ลองนึกภาพนักเทศน์สมัยนี้กับพระเยซู เราไม่รู้ว่า พระองค์ Take Time กับคนที่เจ็บป่วยเหล่านี้มากน้อยแค่ไหน หรือว่าวางปรึ๊บๆๆ แบบแตะๆๆ แล้วก็ผ่านไปอย่างรวดเร็ว เพราะเป็นคนหมู่มาก
และเมื่อประชาชนเห็นว่าพระองค์รักษาโรคได้ คนมากมายหาย ก็เริ่ม “หน่วงเหนี่ยวพระองค์ไว้ ไม่ให้ไปจากเขา” (ข้อ 42) พระเยซูบอกว่า

เราต้องไปประกาศข่าวประเสริฐแห่งแผ่นดินของพระเจ้าแก่เมืองอื่นด้วย
เพราะว่าที่เราได้รับใช้มา ก็เพราะเหตุนี้เอง
” (43)

Healing the Sick 4พระเจ้ากำลังชี้เป้าให้เราเห็นว่า พระเยซูให้ความสำคัญกับสิ่งใดก่อนหลัง จริงอยู่ พระเยซูควรเลี้ยงดูผู้คน เทศนาสั่งสอนต่อไป แต่สิ่งที่สำคัญกว่าใช้เวลากับคนที่ต้องการพระองค์ คือ การประกาศเรื่องราวความรักที่พระเจ้ามีต่อมนุษย์ให้กับคนอื่นๆ ที่ยังไม่เคยได้ยิน พระองค์กำลังบอกว่า ที่พระองค์เกิดมาในโลก ก็เพราะเหตุนี้แหละ!

คนที่เป็นอาจารย์ รับใช้ในงานอภิบาลศิษย์ นักร้อง นักดนตรี ผู้ปรนนิบัติในด้านต่างๆ อาจมีคำถามว่า แล้วพวกเขาไม่สำคัญหรือ? แน่นอนว่าสำคัญ แต่พระเยซูกระทำสิ่งที่พระบิดากระทำ และทำตามพระทัยพระบิดาเสมอ พระองค์พูดเฉลยออกมาเองนะ ว่าอะไรเป็น First Priority ที่สำคัญสุด ไม่ได้ขัดแย้งกันแต่อย่างใด หากหน้าที่ที่เรากำลังรับใช้อยู่นั้น สอดคล้องกับพระราชกิจแห่งแผ่นดินของพระเจ้า และหากสิ่งที่เราทำอยู่ เป็นมาจากหัวใจที่รักในผู้หลงหาย

แต่ถ้าไปต่อกับ ลูกา 5 จะพบว่ามี Priority ที่สำคัญเหนือไปมากกว่าการประกาศเสียอีก พระเยซูไม่เคยปฏิเสธการรักษาโรค แต่พระองค์จัดลำดับความสำคัญของการใช้เวลา ซึ่งเราควรเลียนแบบพระองค์ด้วย ในข้อ 15 บอกว่าชื่อเสียงพระเยซูโด่งดัง คนมากมายมารวมตัวกันจะฟังเทศนา รวมตัวกันรับการรักษาโรค

แต่ … พระองค์เสด็จออกไปในที่เปลี่ยวและทรงอธิษฐาน” (16)

Praying 02Priority หรือลำดับความสำคัญสูงสุดในการดำเนินกับพระเจ้า คือ การมีความสัมพันธ์ที่สนิทสนม มีเวลาส่วนตัว ติดต่อกับพระบิดาในสวรรค์ ซึ่งเป็นแหล่งพลัง และการใช้ชีวิตแต่ละวันอย่างถูกทิศทาง เพราะเมื่อเราสนิทกับพระบิดา เราก็จะดำเนินตามพระทัย/พระประสงค์ ที่เราได้รับ … ในหลายๆ ตอนชี้ให้เห็นว่า พระเยซูอธิษฐานตอนกลางคืนถึงเช้า (โต้รุ่ง) ก็มี อธิษฐานตั้งแต่เช้าตรู่ก็มี อธิษฐานในป่าในเขาก็มี พระเยซูอธิษฐานอยู่เสมอ … จะเกิดอะไรขึ้น ถ้าเราประกาศ รับใช้มากมาย แต่ไม่ได้มีเวลาส่วนตัวกับพระเจ้าในการอธิษฐาน ไม่มีความสัมพันธ์กับพระบิดา???

ตอบให้เลยว่า เป็นชีวิตที่น่าหดหู่ ถดถอย อ่อนแอ พ่ายแพ้ ตกอยู่ในการทดลองอย่างไร้กำลังต่อสู้ ความรู้สึกแย่ๆ ความโศกเศร้า ไม่ได้นั่งเทียนบรรยายให้ฟังหรอก แต่มาจากประสบการณ์จริงๆ พยายามแล้วพยายามอีกที่จะรับใช้ ให้งานเดินต่อไป แต่อารมณ์เหมือนเข็นครกขึ้นภูเขา โทษใครก็ไม่ได้ ได้แต่โทษตัวเอง ก็ไม่ได้พึ่งพาพระเจ้าอย่างที่ควร … เหมือนกับกิ่งที่ถูกแยกจากลำต้น ไม่มีชีวิต

ขอบคุณพระเจ้า แม้จะไข้ขึ้นเหมือนจะไม่รู้เรื่องอะไร แต่ขณะที่อ่านไบเบิ้ล พระเจ้าหนุนใจ และมอบทิศทางปี 2013 ให้ ว่าติดสนิทพระเจ้า ยืนหยัดในพระวจนะ + ประกาศตามพระทัย แล้วจะพบกับเวลาแห่งชัยชนะ … ขอพระองค์โปรดประทานความหิวกระหายฝ่ายวิญญาณขั้นรุนแรงให้กับลูก และพี่น้องทุกท่านในปีนี้มากๆ ด้วยเถิด ในพระนามพระเยซูคริสต์ อาเมนนนนนนนนนน ❤ ❤ ❤

2 Comments »