Popsyz ::: This Blog is Now Yesterday.

Move from MSN space, daily update nothing

Final Week before Long Outreach – เย้ๆๆๆๆ

อาทิตย์นี้เป็นอาทิตย์สุดท้ายก่อนออก outreach ที่เหน็ดเหนื่อยจริงๆ
 
ซ้อมละคร Gospel Drama เพลง Everything ที่ต้นฉบับมาจาก YWAM ลองหาดูใน YouTube ได้
ด้วย search คำว่า "Everything" โบสถ์เราก็เคยเอาไปเล่น ซึ่งกินใจมากๆ
เป็นเรื่องราวความรัก ที่พระเจ้าทรงสร้างมนุษย์ และมนุษย์หลงไปติดกับการล่อลวงหลายๆ อย่างของมาร
สุดท้าย พระเยซูนำการคืนดี และการช่วยเหลือของมนุษย์มาอย่างประทับใจ
 
แต่ที่เหนื่อย ไม่ใช่เรื่องการซ้อมละครหรอก แต่เป็นการเผยพระวจนะ ไม่เคยคิดมาก่อนว่าต้องใช้พลังมาก
เราต้องอธิษฐานเผื่อทุกๆ คนทีละคน แล้วอาทิตย์นี้รู้สึกว่าได้รับถ้อยคำที่จะเผยให้แต่ละคนเกือบทุกคน
วันแรกนอยๆ มากๆ ไปเดินอยู่ในร้านหนังสือคริสเตียน เรเดียน แท้ๆ ทำไมมันมืนหัว เบลอๆ ขนาดนี้เนี่ยะ
ตกกลางคืนต้องเรียกน้องบอลมาช่วยกันนมัสการ แต่น้องบอลก็บอกว่าผมเบลอ เล่นดนตรีไม่ได้
อ้าว อาการเดียวกันเลย นอตก็มาบอกว่าเสร็จเซอร์วิสตอนบ่าย ป้อนนอนสลบเลย เพราะโดนโจมตี
ซึ่งป้อนกับตุ้ยจะได้พระวจนะตรงกันตลอด เหมือนเป็นการคอนเฟิร์มซึ่งกันและกัน
กลางคืนก็เรียกเพื่อนๆ ที่อยู่ใกล้ๆ กันมาช่วยกันอธิษฐานเผื่อ และนมัสการ ซึ่งรู้สึกปลดปล่อยจริงๆ
นมัสการกันจนไม่ไล่ไม่เลิก (อีกแล้ว) โดนพี่สตาฟที่อยู่ใกล้ๆ ลงมาหยุด เลยต่างคนต้องต่างระเห็จ
วันรุ่งขึ้นป้อนก็มาบอกว่าฝันถึงตุ้ย ว่ามาต่อว่าในฝันว่าอย่าพูดพระคำนะ อะไรเนี่ยะ งงเลย
ทั้งๆ ที่เราออกจะเป็นห่วง อธิษฐานเผื่อด้วยซ้ำ … และแล้วอีกวันก็อธิษฐานเผื่อคนที่เหลืออีก
วันนี้รู้สึกเฟิร์มกว่าเมื่อวาน แต่ก็ยังนอยๆ ต้องต่อสู้อยู่บ้าง ไม่เคยคิดมาก่อนเลยว่า
การเผยพระวจนะ จะต้องใช้พลังเยอะขนาดนี้ ไม่น่าล่ะ บางทีผู้รับใช้ไม่สามารถทำเซอร์วิสนานๆ ได้
แต่พระเจ้าของเราก็ใหญ่กว่าละว้า อย่างเที่ยบกับนอยพวกนั้นไม่ได้เลย พระเยซูสุดยอดดดดด
1 Comment »

World is turning so fast – ยุคแห่งการวิ่งไปวิ่งมา

โลกมันวิ่งเร็วขึ้นจนเขียนเสปซไม่ค่อยจะทัน

เอ่อ รู้สึกจะมีหลายคนเป็นห่วง และหลายคนก็เข้าใจผิด ตั้งแต่วันนั้นที่บ่นเรื่องเหงา
ก็ได้ค้นพบบางสิ่งบางอย่างในชีวิต ครั้งหนึ่งก็ได้รู้ ว่าแท้จริงแล้ว ความโดดเดี่ยวเป็นยังไง
แต่มันผ่านไปokoแล้ว เพราะมันเป็นวิญญาณที่ผ่านเข้ามาวนเวียนดุจสิงห์คำราม
สถานที่ที่เราอยู่ ณ ปัจจุบัน เป็นที่ๆ คนจากประเทศต่างๆ มาแวะ outreach บ้างก็ทางผ่าน
เป็นธรรมดาที่ต่างบ้านต่างเมือง มันก็ต้องเหงาเป็นธรรมดา ผู้คนเกือบทุกชาตวนเวียนกันมา
และสิ่งหนึ่งที่มาด้วย คือ วิญญาณ Homesick วิญญาณอ้างว้าง หิวกระหายหาเพื่อน ฯลฯ
แต่นี้ไป ไม่มีสิทธิ์ใดในชีวิตเราอีก ในนามพระเยซู ด้วยพระโลหิตของพระองค์

แต่สำหรับใครที่เข้าใจว่าเราไปตกหลุมรัก แล้วไม่กล้าบอก ขอให้คิดใหม่ได้เลย
ถ้าจะตกจริงๆ คงเป็นหลุมรักเจ้าบ่าวในหนังสือบทเพลงซาโลมอน พระเยซู ของฉัน
หายใจเข้า พระเยซู หายใจออก พระเยซู น่าจะดีกว่า … I never crush on you, bro!

เมื่อวานไปคริสตจักรมา ทั้งรอบเช้าและบ่าย บอกได้คำเดียว ว่าเสียดายกับคนที่ไม่ได้อยู่ที่นั่น
เพราะรู้สึกว่าได้รับพระพรอย่างเต็มล้นจริงๆ โดยเฉพาะตอนที่จะเสียน้ำตาให้กับไก่ที่ถูกเชือดคอ
ไม่ได้สงสารไก่หรอก แต่อาจารย์ช่างทำให้เราเห็นภาพตัวเองจริงๆ

กางเขนที่ถูกโยนทิ้ง ก็เหมือนกับไก่ถูกเชือดคอแต่ยังไม่ยอมตาย กระโต๊ก กระต๊าก โวยวาย
หลายครั้งในชีวิตที่แบกไม้กางเขนก็รู้สึกหนักเกินไป พระองค์เจ้าข้า ลูกหนัก ลูกทนไม่ได้ ฯลฯ
มาคิดๆ ดู เราอยู่ในคริสตจักรที่ผู้นำ และผู้ใหญ่ ดูดีจนเกินไป จนไม่ชินกับสถานการณ์ปกติทั่วไป
สังคมคริสเตียนภายนอก โหดยิ่งกว่า home church เสียมากมาย แต่ถ้าไม่ทนตอนนี้ แล้วจะตอนไหน
จะมีที่ไหนมีโอกาสดีๆ ได้บทเรียนอันล้ำค่า เท่ากับตอนที่ เหตุการณ์มาถึงแล้วเข้าใจสถานการณ์ได้
จะมีตอนไหนพึ่งพาพระเจ้าสุดใจ  เท่ากับตอนปัญหามารุมเร้า หัวใจแหลกสลาย
จะมีตอนไหนที่สำแดงความรักกับผู้คนได้มากมาย ตอนที่พบว่าคนนั้นเป็นคนบาป คนไม่น่ารัก

คนดีๆ ใครๆ ก็อยากเข้าใกล้ และ คนน่ารัก มักเป็นที่รักใคร่ ของคนทั้งปวง
แต่พระเจ้า ความรักของพระองค์ยิ่งใหญ่ แผ่ไพศาลเพียงพอที่จะยื่นมาถึงคนชั่วช้า ไม่น่ารัก
และพระองค์ก็ปราถนาให้ลูกของพระองค์ มีหัวใจเฉกเช่นเดียวกับพระบิดาผู้จิตใจดี ไร้การอธรรม
สิ่งที่เปลี่ยนคนธรรมดา ให้มีหัวใจรักเยี่ยงพระเยซู ยอมเจ็บ ยอมสละ ทุกอย่างเพื่อคนอื่น
ก็คือ "ไม้กางเขน" … รับแบกไว้ รับแบกไว้ตุ้ย
อย่าพลาดโบนัสที่จะร่วมประสบการณ์แห่งฤทธิ์เดชกับพระองค์
พระเจ้าข้า แม้มันจะยาก แต่ขอพระองค์ช่วยให้ปากเปล่งคำโมทนาสุดเสียง สุดใจ ต่อพระองค์ได้เสมอ

เดี๋ยวค่อยกลับมาเขียนอีกทีละกันนะ

พระเจ้าอวยพรทุกคน Luv U XOXO

1 Comment »