Popsyz ::: This Blog is Now Yesterday.

Move from MSN space, daily update nothing

รักแล้วก็รอหน่อย

มีนายทหารอเมริกันคนหนึ่งประจำการอยู่ที่ฐานทัพในต่างประเทศ ครั้งหนึ่ง มีการรณรงค์ให้คนเขียนจดหมายเพื่อเป็นขวัญกำลังใจแด่ทหารเหล่านั้น

วันหนึ่ง นายทหารผู้นี้ สมมุติว่าชื่อแซม ได้รับจดหมายที่เสริมกำลังใจอย่างดีจากผู้หญิงคนหนึ่งในรัฐนิวยอร์ค ทั้งสองติดต่อกันเรื่อยมา จนรู้ว่าทั้งคู่มีความคล้ายคลึงกันมาก อย่างหนึ่งคือ ทั้งสองต่างเป็นคริสเตียนด้วยกันทั้งคู่ นายทหารรู้สึกว่าตนได้รับการหนุนจิตชูใจเป็นอย่างมากจากจดหมายของผู้หญิงคนนั้น การอยู่ในสภาวะสงครามนั้น เป็นสภาพที่หงอยเหงาและลำบากสำหรับเขามาก แต่ผู้หญิงคนนั้นก็หนุนใจเขา ด้วยพระสัญญาจากในพระคัมภีร์ และด้วยคำอธิษฐานเผื่อเขาทุกๆ วัน

จนกระทั่งวันหนึ่ง แซมได้พักราชการ และมีโอกาสไปที่นิวยอร์คในตอนบ่ายวันหนึ่งก่อนที่จะบินกลับ เขาจึงเขียนไปหาผู้หญิงคนนั้น หวังว่าจะได้พบกับเธอ เพื่อขอบคุณที่เป็นกำลังใจให้ตลอดมา เขาจึงนัดพบเธอที่สวนสาธารณะเซ็นทรัลปาร์ค และเธอเขียนตอบกลับมาว่าจะติดดอกไม้สีแดงไว้บนเสื้อ เพื่อจะได้หาเธอเจอง่ายๆ

แซมไปรอที่สวนสาธารณะก่อนเวลา จึงนั่งอ่านหนังสือพิมพ์อยู่ สายตาคอยสอดส่องเพื่อมองหาว่าผู้หญิงคนไหนกลัดดอกไม้ไว้บนเสื้อ ทันใดนั้นเอง … ก็มีผู้หญิงสาวที่สวยที่สุด เท่าที่เขาเคยพบมา เดินตรงมาหาเขาด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม เธอมีสง่าราศี แต่งตัวสวยงาม รูปร่างท่าทางดี และน้ำเสียงก็เต็มไปด้วยความนุ่มนวล ทำให้ใจเขาเต้นแรงขึ้น เขาคิดกับตัวเองว่า "โอ พระเจ้า ถ้าพระองค์จะทรงประทานผู้หญิงอย่างนี้ให้ข้าพระองค์ ก็ดีน่ะสิ" และเขาต้องประหลาดใจเมื่อเธอเอ่ยขึ้น "สวัสดีค่ะคุณทหาร ทานอาหารเที่ยงหรือยังคะ แถวนี้น่ะมีร้านอาหารอร่อยมากเชียวค่ะ" เขาเหลือบมองดูนาฬิกาข้อมือว่า มีเวลาเหลืออีกเท่าไหร่ก่อนที่จะถึงเวลานัดกับผู้หญิงที่คอยเป็นกำลังใจให้เขา อีกห้านาทีเท่านั้นเอง ที่จริงเขาอยากไปกับหญิงสาวคนนี้เป็นอย่างมาก แม้จะแค่จิบกาแฟนิดหน่อยก็ยังดี

แต่พอเขาเงยหน้าขึ้นจากนาฬิกา เขาเหลือบไปเห็นหญิงวัยชราคนหนึ่งนั่งอยู่ที่ม้านั่งตรงข้ามเขา ดูเหมือนว่านางจะมีอายุมากกว่าแปดสิบปี เห็นได้จากรอยบนใบหน้า นางแต่งตัวอย่างคนจนๆ สวมเสื้อโค้ทเก่าๆ ขาดๆ และก็มีดอกคาร์เนชั่นสีแดงสดกลัดอยู่บนเสื้อของนาง ใจของเขาตกไปอยู่ที่ตาตุ่ม แม้เขาจะรู้สึกเสียดาย แต่ก็หันไปบอกหญิงสาวผมบลอนด์ว่า "ผมก็อยากไปมากครับ คุณไม่รู้หรอกว่าผมอยากไปขนาดไหน แต่ผมมีนัดน่ะครับ มีนัดกับคนที่มีบุญคุณต่อผมมากในยามที่ผมลำบาก ผมก็เลยไม่ว่าง แต่ขอบคุณมากจริงๆ ที่อุตส่าห์มาชวนผม"

เธอเพียงแค่ยิ้มและตอบว่า "ไม่เป็นไรค่ะ แต่ถ้าคุณเปลี่ยนใจล่ะก็ ฉันจะรออยู่ที่ร้านอาหารตรงนั้นค่ะ"

ในขณะที่เธอเดินจากไป เขาได้อธิษฐาน "โอ พระเจ้า บางครั้งข้าพระองค์รู้เรื่องการเชื่อฟังมากเกินไปหน่อย ข้าพระองค์อยากไปมากก็จริง แต่ถ้าเป็นน้ำพระทัยพระองค์ ก็ขอพระองค์ช่วยจัดการสถานการณ์ให้กับข้าพระองค์ด้วย เพื่อข้าพระองค์จะเชื่อฟังพระองค์และวางใจในแผนการอันสมบูรณ์ของพระองค์ที่มีต่อชีวิตของข้าพระองค์ แม้จะดูเหมือนว่าแผนการอันสมบูรณ์นั้นเพิ่งหลุดลอยไปต่อหน้าต่อตาเดี๋ยวนี้เอง"

เขาถอนหายใจก่อนที่จะเดินไปหาหญิงชราผู้นั้น ยิ้มให้นางและยื่นมือออกไปเพื่อจะจับมือกับนาง "ผมนี่แหละครับที่นัดไปทานอาหารเที่ยงกับคุณวันนี้"

แล้วเขาต้องประหลาดใจเมื่อนางตอบกลับมาว่า "ไม่ใช่ค่ะ คนที่จะไปทานข้าวกับคุณน่ะคือ ผู้หญิงสาวสวยคนเมื่อกี๊ เขาเพิ่งเอาดอกไม้มากลัดให้ดิฉัน แล้วเขาก็ชี้ไปที่คุณ แล้วบอกว่า ถ้านายทหารคนที่นั่งอยู่ที่ม้านั่งตรงนั้นมาหาดิฉันเพื่อชวนไปกินข้าว ให้บอกคุณว่าเขาเป็นคนที่นัดกับคุณไว้ เขาจะรอคุณอยู่ที่ร้านอาหารตรงหัวมุมถนนด้านขวาโน่นค่ะ" เขาจึงรีบวิ่งไปยังร้านอาหารนั้น

ทั้งคู่รับประทานอาหารเที่ยงด้วยกันอย่างออกรส และก็ได้รู้จักกันมากขึ้น จากนั้นทั้งสองก็แต่งงานกันหลังจากที่เขาออกจากราชการทหาร

เราไม่สามารถประมาทความประเสริฐของพระเจ้า พระองค์ทรงรู้ใจเป็นอย่างดี และพระองค์รู้ว่าพระองค์ทรงทำอะไรอยู่ แต่หลายครั้งเราต้องเรียนรู้ที่จะมีวินัยบังคับตน รู้จักปฎิเสธสิ่งที่เราอยากได้มาก เพื่อว่ามันจะไม่กลายเป็นรูปเคารพของเรา

อย่าเข้าใจผิด คิดว่าสิ่งที่ต้องการ และสิ่งที่พระเจ้าปรารถนาในชีวิตจะแตกต่างกันเสมอ บางทีพระองค์อาจจะประทานในสิ่งที่คุณอยากได้ แต่พระองค์ไม่ทรงประทานให้ก่อนที่จะรู้จักการเสียสละก่อน และถ้าพระองค์ไม่ทรงประทานในสิ่งที่คิดว่าจำเป็น ก็ให้เราวางใจว่าพระเจ้ามีสิ่งที่ดีกว่ารออยู่เสมอ ให้เราเชื่อฟังและวางใจในความประเสริฐของพระเจ้า แม้ว่าเราต้องทนทุกข์ในหลายครั้ง และพระองค์จะทรงประทานอนาคตที่ดีกว่าให้กับคุณ

10 Comments »

The Cross, the Crown (No Love Greater)

God in our likeness for nothing less than love
Our Judge became our Savior to make a way for us
The cross, the crown
The blood falling down
The love that cost
A price greater than all we could pay

Who can stand as righteous
A sinner saved by grace
The wrath of God was crucified
When Jesus took our place


There’s no love greater (no greater love)
No love greater (on the earth)
No love greater than the cross

ลองแปลเล่นๆ —–

ความรักเป็นสิ่งที่สำแดงออกมาจากพระฉายาของพระเจ้า
ผู้ดำรงความเที่ยงธรรมมาเป็นผู้ช่วยให้รอดแก่เรา
ไม้กางเขน มงกุฎหนาม และโลหิตที่หลั่งออกมา
เป็นคุณค่าแห่งความรัก เกินค่ากว่าที่เราจะจ่ายได้เอง

มนุษย์คนใดเล่าจะอยู่ต่อหน้าพระพักตร์อย่างคนชอบธรรม
คนบาปได้รับการอภัยด้วยพระคุณเปล่าๆ
พระพิโรธแห่งความเที่ยงธรรมถูกตรึงไว้ที่กางเขน
เมื่อองค์พระเยซูเสด็จลงมาในโลกา

ไม่มีความรักใดยิ่งใหญ่กว่านี้อีก
ทั่วภิภพ ไม่มีรักใดยิ่งใหญ่กว่ารักแห่งไม้กางเขน

2 Comments »