Popsyz ::: This Blog is Now Yesterday.

Move from MSN space, daily update nothing

Church in Singapore – คริสตจักร ใน สิงคโปร์

ก็ว่าจะเขียนทอปปิคนี้ 1 ปีมาแล้ว วันนี้ได้ฤกษ์ ลุย…

1. City Harvest Church (城市丰收教会)

CHC ตั้งอยู่แถว Jurong West แต่นมัสการวันอาทิตย์ที่ Expo Hall 8 … เป็นคริสตจักรที่มีสมาชิกมากที่สุดของสิงคโปร์ ณ ปัจจุบันนี้ มีสมาชิกราวๆ 2-3 หมื่นคน เป็นอันดับที่ 2 ของเอเชีย โดยคริสตมาสปี 2007 มีคนมาร่วมงานถึง 5 หมื่นกว่าคน มีรอบหลายภาษา ไม่ว่าจะเป็น อังกฤษ จีนแมนดริน กวางตุ้ง ฮกเกี้ยน อินโด … ก่อตั้งโดย ศบ. Kong Hee (เป็นแพสเตอร์ที่แอ๊บวัยรุ่นมากๆ) ในปี 1989 โดยแรกเริ่มมีคนเพียง 20 คน และในปี 2001 คริสตจักรมีที่นั่งสำหรับคน 2,300 คน และในปี 2005 ก็ย้ายไปนมัสการที่ Expo เพราะคนเยอะมาก

CHC เป็นคริสตจักรลักษณะ Charismatic และ Pentecostal เน้นคำสอนเรื่อง ความรัก, พระมหาบัญชา และสิทธิอำนาจ และยังมีสถาบันพระคัมภีร์ที่ได้รับการรับรองจากนานาชาติ และร่วมกับวิทยาลัยของออรัล โรเบิร์ต ในอีกกว่า 50 คริสตจักรตามประเทศต่างๆ มีสถานีวิทยุและโทรทัศน์ของตัวเอง และมีทีมมิชชั่นมากมาย ฯลฯ คำเทศนาที่เคยฟัง จะเน้นเรื่องการนมัสการ การรับใช้ และชีวิตที่บริบูรณ์ ฯลฯ

คริสตจักรนี้ โตด้วยระบบ Cell Group และไม่มีการปรับเปลี่ยนเป็น G12 แต่อย่างใด … น่าแปลกที่ระบบเซลล์ไม่ตันเหมือนกับโบสถ์เราแฮะ และตอนที่เคยไปเยี่ยมโบสถ์ที่นั่น ก็มีคอนเสิร์ตจาก Hillsong มาพอดีด้วย คนไปขอถ่ายรูปกันตรึม เราก็เลยไม่ได้ภาพมา อ้อ โบสถ์นี้มีอัลบั้มนมัสการหลายอัลบั้มแล้วนะ เพลงก็ใช้ได้เลย แนะนำเพลง Come, Holy Spirit ในอัลบั้ม Cross ปี 2005

2. New Creation Church

NCC เป็นคริสตจักรที่ก่อตั้งในปี 1984 เริ่มจากสมาชิกราวๆ 25 คน เพิ่มเป็น 150 คน ในปี 1990 และ 3 พันคนในปี 1997 โดยปัจจุบันมีสมาชิกราวๆ 17,000 คน มีรอบ 4 ภาษา อังกฤษ แมนดริน ฮกเกี้ยน และ เกาหลี … ลองสังเกตุดูว่า เพราะเหตุใด จำนวนตัวเลขคริสตจักรถึงได้มีการก้าวกระโดดอย่างน่าตกใจ? ไม่รู้ว่าเกี่ยวมั๊ย ที่คริสตจักรเหล่านี้เน้นเรื่องการทรงนำของพระวิญญาณบริสุทธิ์???

คริสเตียนไซเบอร์ส่วนใหญ่แล้ว จะรู้ว่า Pastor Joseph เนี่ยะ เป็นคนที่ Popular มากๆ เพราะอาจารย์โจจะเทศนาเน้นเรื่อง "พระคุณพระเจ้า" เน้นเรื่องความมั่งคั่ง และชีวิตที่บริบูรณ์ โดยได้รับเชิญจากคริสตจักร Hillsong ไปร่วมเป็นวิทยากรในงานสัมมนาระดับโลกอยู่บ่อยครั้ง ส่วนคำเทศนาทุกวันอาทิตย์ของ NCC คนทั่วโลกก็ดาวน์โหลดกันไปฟังกันอย่างมันส์ และแม้แต่ประเทศไทยก็ยังเคยเชิญอาจารย์มาเทศนาทางภาคเหนือ ผู้ใหญ่ที่ไปเจอจารย์โจมา บอกว่ารัศมีแห่งความรักจากพระเจ้าผ่านอาจารย์ช่างอบอุ่นมากๆ

อาจารย์โจ มีของประทานในการสอน สอนพระคัมภีร์ได้อย่างฮา และคำเทศนาของอาจารย์มีผลในชีวิตของเราจริงๆ เพราะอาจารย์เน้นที่พระเยซูเป็นหลัก เน้นเรื่องความรักของพระเจ้า ฤทธิ์เดชไม้กางเขน พระสัญญา ความจริงในพระลักษณะของพระองค์ ฯลฯ ใครฟังแล้วจะซาบซึ้งพระคุณพระเจ้าไปตามๆ กัน … ที่สำคัญ ตั้งแต่ฟังเพลงนมัสการของสิงคโปร์มา คริสตจักรนี้ยอดเยี่ยมเรื่องการนมัสการมากที่สุด ไม่ว่าจะเป็นอัลบั้มของอาจารย์โจเอง ที่นำนมัสการในพระวิญญาณ หรือเป็นอัลบั้มที่ทีมนมัสการแต่งขึ้นมาเอง ขอบอกว่าสุดยอดมากๆๆๆๆๆ เพราะเพลงนมัสการของเค้ามีลักษณะเป็นลูกคลื่น ตั้งแต่อ่างชำระจนถึงห้องชั้นใน ตรงหน้าแท่นพระกรุณา ได้อารมณ์มากๆ โดยเฉพาะเพลง "All Glory and All Praise" ในอัลบั้ม "You Alone I Praise" การันตี เพราะทั้งอัลบั้ม

3. Faith Babtist Community Church (FCBC)

FCBC อันนี้ยังไม่มีการสืบทราบถึงประวัติในการก่อตั้ง แต่คริสตจักรนี้เป็นที่ที่เคยไปร่วมงานสัมนา GCYC อยู่อาทิตย์นึงเต็มๆ ประชุมที่ Expo เหมือนกัน อยู่ข้างๆ โบสถ์ CHC อย่างชิดใกล้ แต่ก็แตกต่างนิดหน่อย ตรงที่คริสตจักรนี้เป็นแบ๊พติสต์เก่ามาก่อน แล้วมาฟื้นฟู เชื่อเรื่องพระวิญญาณมากขึ้น นำเอาระบบ G12 เข้ามาใช้ คือ สร้างสาวก 12 คนไปเรื่อยๆ ใครมีลูกหลานครบ 144 ก็จะถือว่าเป็น Pastor ส่วน ศบ.ลอเรนซ์ คอง เป็น ศบ. ที่ใช้มายากลในการประกาศ และสอนในคริสตจักรด้วย เท่มะล่ะ

FCBC เป็นคริสตจักรที่มีสมาชิกมากเป็นอันดับที่ 2 ของประเทศสิงคโปร์เลย ซึ่งตอนที่ปรับเปลี่ยนนำ G12 เข้ามาใช้ สมาชิกย้ายโบสถ์หนีกันไปครึ่งต่อครึ่ง แต่ทุกวันนี้ก็ยังถือว่าสมาชิกเยอะอยู่ เห็นเด็กอายุ 12 มีลูก G เป็นเด็ก 5-7 ขวบรายล้อมในกลุ่ม แล้วเด็ก 12 ขวบก็สอนน้องๆ น่ารักมากๆ ส่วนเพื่อนๆ ที่คริสตจักรนี้ก็นิสัยดี น่ารัก น้ำใจงาม เป็นอะไรที่ต้อนรับ เลี้ยงดูพวกเราอย่างดีมากๆ สัมผัสถึงความรักพระเจ้าจริงๆ

ส่วนเรื่องการนมัสการหรอ … เพลงเค้าก็เพราะมากๆ เช่นกัน ได้รับแจกซีดีมา 1อัลบั้ม แนะนำเพลง Come & Bless the Lord และเพลง New Every Morning นอกนั้นที่คริสตจักร FCBC ก็ใช้เพลงของ Hillsong เป็นการป๊กติ

เดี๋ยวค่อยมา Review อีกรอบละกัน …

1 Comment »

ยิ่งรับใช้ มารยิ่งโจมตี??? VS พระเจ้ายิ่งอวยพร???

เคยมีคนบอกว่า ยิ่งเรารับใช้พระเจ้า มารซาตานก็ยิ่งจะโจมตีชีวิตเรา ทำให้หลายคนกลัวการรับใช้พระเจ้าไปซะงั้น
อยากเอาความจริงใน อพยพ 23:25 มาเปิดเผยให้ได้ทราบทั่วกัน

"จงปรนนิบัติพระเจ้าของเจ้า แล้วพระองค์จะทรงอวยพรแก่อาหารและน้ำของเจ้า
เราจะบันดาลให้โรคต่างๆหายไปจากท่ามกลางพวกเจ้า
จะไม่มีการแท้งลูก หรือเป็นหมันในดินแดนของเจ้า เราจะให้เจ้ามีอายุยืนนาน
"

สิ่งใดที่พระเจ้าตรัสไว้แล้ว ไม่มีทางที่จะไม่เป็นจริง พระคำข้อนี้ชี้ว่า
– ยิ่งรับใช้พระเจ้าจะยิ่งมั่งคั่ง
– ยิ่งรับใช้พระเจ้าก็ยิ่งแข็งแรง ไร้โรคภัย
– ยิ่งรับใช้พระเจ้า พระองค์ก็ยิ่งอำนวยอวยพร ให้เกิดผล งานรับใช้ไม่มีเป็นหมัน
– ยิ่งรับใช้พระเจ้า ยิ่งอยู่ยงคงกระพัน

พระเจ้าปกป้องเราไว้หมดแล้ว … TRUST TRUST in the WORD of GOD!!!

Leave a comment »

Happiest

อาทิตย์ที่ผ่านมา มีผู้ชายคนนึงพูดว่า

"ตั้งแต่ผมได้รู้จักพระเจ้า ผมมีความสุขมาก
ผมไม่เคยมีความสุขแบบนี้มาก่อนเลยในชีวิต
"

วันนี้ขอพูดเช่นเดียวกัน

"วันนี้ฉันมีความสุขมากๆ … 1 วันในพระนิเวศน์ของพระเจ้า
ฉันมีความสุขมากที่สุด ไม่มีที่ไหนสุขใจเท่าในพระองค์เลย
"

จริงๆ ตอนเย็นก็กินก๋วยเตี๋ยวกับน้องๆ ไปทีแล้ว คิดว่าไม่หิวแล้ว
แต่ข้างใน มีอะไรบางอย่างชักชวนว่ายังไงวันนี้ก็ต้องไปกินอะไรที่สโมสร
เจ้าของร้านอาหารที่สโมสร คือแม่เพื่อนชื่อ "ขนม" เพื่อนสมัยชั้นมัธยมปลาย
ซึ่งไม่สนิทกันเท่าไหร่ เพราะอยู่คนละห้อง แล้วก็ไม่เคยกลับบ้านด้วยกัน
เพราะหนมจะขับรถไปโรงเรียนตั้งแต่อายุยังทำใบขับขี่ไม่ได้

ด้วยความบังเอิญ ก็ย้ายมาอยู่หมู่บ้านเดียวกัน และมักจะอุดหนุนร้านอาหารนี้เป็นประจำ
แต่วันนี้ก็ เอ…เราไม่หิวนะ แล้วอาหารที่นี่จานนึงก็ 70 ขึ้นไป ไปกินร้านอื่นก็ได้นี่ แต่ทว่า…
ไปถึงก็ยกมือไหว้แม่เพื่อนเป็นปกติ แต่หน้าคุณแม่วันนี้บอกบุญไม่รับ รับไหว้อย่างไม่เต็มใจ
อารมณ์ขึ้นอย่างเห็นได้ชัด แล้วก็ถามว่าเราจะสั่งอะไร ด้วยความไม่หิวจริงๆๆๆ เลยสั่งยำวุ้นเส้น
แล้วก็ไปเดินเล่นรอบๆ สระว่ายน้ำ ยังบ่นๆ กับพระองค์อยู่เลย ว่าแม่เพื่อนมาหงุดหงิดใส่ไมฟะ

พอกลับมาอีกที อาหารก็ยังไม่มา ก็หยิบหนังสือจะมานั่งอ่านรออาหาร หันไปเห็นจานมากมาย
ที่ลูกค้ากินเสร็จ เช็คบิลล์ไปแล้ว แต่ยังไม่ได้เก็บอยู่หลายโต๊ะ ไม่มีลูกจ้างคนไหนออกมาเก็บ
เลยอาสา ช่วยเก็บจานและแก้วมากมายจากหลายๆ โต๊ะ พร้อมเช็ดโต๊ะให้เรียบร้อยอย่างดี
ท่าทีของคุณแม่ท่านนี้ เปลี่ยนไปเป็นคนละคน หลังจากโต๊ะสะอาดพร้อมรับลูกค้ารายใหม่
ขายดีขนาดนี้ น่าจะดีใจนะเนี่ยะ แต่ก็เข้าใจว่าเหนื่อย และไม่มีใครมาช่วย หนมเองก็ไม่อยู่

ถ้าไม่ใช่เพราะพระเจ้า เราคงไม่ได้ทำให้ง่ายๆ หรอก แต่นี่รู้สึกยินดีและแฮปปี้มากๆ ที่ได้ทำอะไรก็ได้
เพื่อจะให้คนอื่นรู้สึกดี และยิ่งถ้ามีโอกาสได้พูดเรื่องความรักของพระองค์ จะดีใจมากกว่านี้อีก
หลังจากหม่ำเสร็จแล้ว คุณแม่ท่านยิ้มแย้มแจ่มใส เกรงอก เกรงใจ ขอบคุณเกือบ 10 รอบเห็นจะได้

5 5 5 … พระเจ้าคะ เปลี่ยนลูกบ้างสิ เวลาเซ็งโลก หงุดหงิดต่อความอยุติธรรมของโลกใบนี้
นอกจากส่งพระคำแล้ว ช่วยส่งคนมาอยู่เคียงข้าง ช่วยกู้โลกของลูกให้สดชื่น แจ่มใส  ทุกๆ วัน

4 Comments »

Songkarn – สงกรานต์ 2008

เมื่อวันจันทร์ ตื่นมาก็ลุกไม่ขึ้น รู้สึกเพลียและเหนื่อยกายจริงๆ เพื่อนจุก็โทรมาว่าจะไปเหมืองด้วยกันรึเปล่า เลยปฎิเสธว่าไม่ไปดีกว่า แล้วก็อ้างเหตุผลไปเรื่อย ว่าไม่อยากโดนสาดน้ำ บ้านไกล จริงๆ มันไม่อยากใช้พลังงาน แล้วก็ยังไม่ได้เคลียร์ห้อง เคลียร์ของที่เพิ่งกลับจากจีน ก่อนจะได้ทำอะไร ก็บอกพระองค์ว่าไม่ไหวแล้ว ทำไมมันหมดแรงอย่างนี้เนี่ยะ ขอพระคำอะไรก็ได้ โดนๆ หน่อย เอาให้หายเหนื่อยเลยนะ

ก็หยิบพระคัมภีร์ข้างหัวขึ้นมาเปิด เปิดไปเปิดมา ไม่เจอซักที พระคำเกี่ยวกับเหนื่อยๆ เนี่ยะ แล้วก็หยิบหนังสือที่จะเอาไปให้พี่น้องที่โบสถ์เมื่อวานแล้วลืมขึ้นมาพลิกๆ ดู ตาก็ไปสะดุดที่หัวข้อ "การบีบคั้นของซาตาน" มาถึงตอนหนึ่งบอกว่า เราอย่าได้ไปหงุดหงิดหรือชิงชังพี่น้องของเรา เพราะการกระทำของเขา อันที่จริงแล้วเบื้องหลังคือ มารซาตานที่ใช้เขามารบกวนจิตใจของเรา แล้วก็ชี้ถึงเรื่องของเปาโลขับผีทาสสาวในเมืองฟิลิปปี

เปาโลไม่ได้ขับผีทันทีในวันแรก ทาสสาวที่ถูกผีเข้าพูดเรื่องจริง แต่สิ่งนั้นไม่ได้มาจากพระเจ้า จนเปาโลเริ่มหงุดหงิด ทนไม่ไหวจึงสั่งให้ผีออกมาจากหญิงสาว ผู้เขียนชี้ให้เห็นว่า ตามธรรมชาติของมนุษย์ เราอาจจะยัง "ทนได้" แต่ถ้าเราเลิกอดทนเมื่อไหร่ ให้ลงกับผีมารที่เป็นต้นเหตุที่มองไม่เห็น … ก็เลยมาฉุกคิดเรื่องความอ่อนล้าของเรา ว่าฉันจะไม่ยอมเหนื่อยอีกต่อไปแล้ว ฉันหมดความอดทนกับแกแล้ว เพราะฉันไม่รู้จะเหนื่อยไปถึงเมื่อไหร่ แล้วก็สั่งวิญญาณชั่วทั้งหลายที่บีบคั้นให้ฉันเหนื่อยออกไปให้หมด จริงๆ ร่างกายก็ยังรู้สึกอยู่ แต่ด้วยความที่เราเชื่อในสิ่งที่พูดออกมา ก็หายเหนื่อยจริงๆ แล้วซักพักร่างกายก็ไม่รู้สึกเหนื่อยด้วย

แล้วพี่ชายใจดีคนนึงก็โทรมาพอดีว่าจะมารับไปบ้านเนทตอนเย็น อืมม งั้นไปก็ไป เลยต้องรีบจัดการซักผ้า เก็บข้าวของ จัดกระเป๋าเป็นการด่วน กว่าจะไปถึงบ้านเนทก็ดึกทีเดียว จุกะเก๋ก็ไม่อยู่ วันนี้เลยไม่ได้ทำกลุ่มสามัคคีธรรมอย่างคราวก่อน แล้วก็ได้กินไข่เจียวฝีมือคุณแม่ก่อนนอน

   

เห็นว่าจะออกเดินทางสายๆ หน่อย แต่รู้สึกเนทจะปลุกเราตี 5 ครึ่งได้ ไรเนี่ยะ คนอื่นตื่นกันหมดละหรอ … พยามจะนอนบนรถหลายรอบ แต่ก็ไม่หลับสักงีบ และเวลาก็ผ่านไปหลายชั่วโมง ก็มาถึงแม่สอด กว่าจะหาคริสตจักรที่แม่สอดเจอก็ลึกลับเหมือนเขาวงกตบนหุบเขา นึกว่ามาทำพิธีมอบถวายคริสตจักร จริงๆ เอาเงินมาจ่ายเจ้าของที่ เพื่อย้ายคริสตจักรไปอีกที่นึง ไม่ให้โดนเหมืองทับซ้า ตกเย็นก็นั่งร้องเพลงตรงที่เขาจะทำกับข้าวกัน เวลามืดที่นี่ ก็มืดสนิทททจริงๆ แต่พวกป้าๆ น้าๆ ยังสามารถปรุงอาหารโดยไม่ต้องพึ่งแสงให้อร่อยได้

ตกดึกเค้าก็นั่งเซ็นสัญญาท่ามกลางแสงเทียน และนมัสการภาษาม้งต่อจากนั้น … จริงๆ เรื่องอาหารการกิน ความเป็นอยู่ ไม่ใช่อุปสรรคใดๆ ที่ทำให้รับใช้พระเจ้าในท้องที่แบบนี้ไม่ได้ แต่พอมาถึงเรื่องห้องน้ำนี่สิ แล้วฉันจะอยู่ได้มั๊ยอ่า ห้องน้ำยิ่งกว่าเมืองจีนซะอีก ถ้าเปิดไฟในห้องน้ำ ใครมองเข้ามาก็เห็น … แต่เอาเป็นว่า เรามั่นใจว่าพระองค์ยังไม่ได้เรียกเราให้รับใช้กับ ตจว แน่นอน

   

วันรุ่งขึ้น มีโอกาสได้ไปพม่าซะงั้น ทั้งที่ช่วงเวลานี้จะต้องได้ไปชิม Gelato ที่ Italy แล้ว ไหงถึงพลิกล็อคได้ขนาดนี้เนี่ยะ หนังสือพิมพ์บอกว่า พม่าเปลี๋ยนไป๋ ก็จริงๆ อ่ะ เขาเล่นสงกรานต์เหมือนคนไทยกันด้วย แต่ว่าแต่งหน้าร็อคกันทั้งบ้านทั้งเมือง ส่วนสภาพความเป็นอยู่ที่โน่น เหมือนหมู่บ้านพม่าที่อยู่ในไทยนี่แหละ อาหารการกิน ขนม โต๊ะ อาคาร เหมือนอย่างที่เคยเห็นจริงๆ ด้วย … และแล้วก็ได้ไปชอปปิ้งตรงชายแดนตะเข็บไทย น้ำโขงแห้งเหือด จนชาวพม่าเดินเข้าไทย ไม่ต้องผ่าน ตม. ยังได้เลย … สุดท้ายก็กลับถึงเมืองไทยจนได้ GBU

1 Comment »

Another Day in Christ’ Family – เหนื่อยแต่แฮปปี้

เมื่อวานกลับมาเมืองไทย เลื่อนไฟลท์จากเที่ยงคืนเป็นค่ำๆ เลยมีเวลาเคลียร์ข้าวของก่อนนอน ส่วนวันนี้ที่บ้านไปโบสถ์ที่กบินท์กันหมด เราเลยไปคนเดียว และพาแท็กซี่ไปหลงตรงทางลัดอยู่พักนึง พอจะถึงโบสถ์เวลาก็ล่วงเลยไปพอสมควร เลยเซ็งๆ คิดว่าวันนี้คงไม่มีอารมณ์ฟังพระคำแล้ว เพราะอยากไปนมัสการมากๆ แต่ผิดคาด ยังทัน 2-3 เพลงสุดท้าย รู้สึกดีมากๆ แถมยังได้ฟังพระคำที่พระเจ้าตรัสหลายสิ่งหลายอย่าง ผ่านเรื่องราวของโยเซฟ

แต่ทำไมพี่น้องหลายคนทักทายว่าไปทำอะไรมา หน้าโทรมขนาดนี้  ก็ที่ผ่านมา รู้สึกเหนื่อยๆ และต้องปรับสภาพร่างกายพอสมควร แต่ไม่คิดว่าคนจะทักเยอะขนาดนี้ มีช่วงนึงที่เซ็งๆ อย่างบอกไม่ถูก แต่พระองค์ก็บอกให้เราแบกกางเขนต่อไป และสภาพการณ์ก็กลับกลายเป็นดี สดใสขึ้นมาซะงั้น

อันที่จริงก็บอกพระองค์ไว้ตอนเช้าๆ ว่าอยากกินอาหารไทย-อีสานจัง คิดถึ๊ง คิดถึง เพราะอยู่จีนหลายวัน กินแต่อาหารมันเยิ้มอยู่หลายมื้อ อร่อยนะ แต่อร่อยยังไง สู้อาหารบ้านเราไม่ได้เลย แต่คิดไม่ถึงว่าจะได้กินจริงๆ เหมือนตอนนั้น ที่มีวันเสาร์คืนนึง กลางคืนลงมาอุ่นซูชิแล้วอยากกินอาหารญี่ปุ่นวันรุ่งขึ้น แล้วก็ได้กินโออิชิจริงๆ พระเจ้าของเรานี่สุดยอดเลย ถ้าบุตรขอปลา(ดิบ) พระบิดาหยิบยื่นสาหร่ายและ ฯลฯ ให้อีกด้วย

ไม่อยากมาออนไลน์เท่าไหร่ แต่อยากบันทึกเรื่องการจัดเตรียมของพระองค์ในวันนี้ … ขอบคุณพระเจ้า
ในครอบครัวของพระเจ้า แม้บางครั้งเราจะอึดอัดกับบางสถานการณ์ บางคำพูด แต่…
ในครอบครัวของพระองค์ ลูกมีความสุขมาก แม้จะเพื่อนกันเฉพาะวันอาทิตย์ก็ตาม

เหนื่อยจัง … ขอให้มีเรี่ยวแรง ทั้งกาย และเข้มแข็งในจิตใจมากๆ
ไม่อยากเป็นคนไม่ดี ไม่อยากเป็นคนมีอคติ ไม่อยากเป็นคนคิดมากจริงๆ
เข้มแข็งๆๆๆๆๆ อะไรก็ไม่กระเทือน … อาเมน ฮาเลลูยา

1 Comment »

Shang Xia Jiu Lu – ซ่างเซี่ยจิ่วลู่ 上下九店

I plan to visit Shang Xia Jiu Lu since the last times I was in Guangzhou that If I come back again, I must be in this road. This is the day! Ha ha ha … but I gotta wait for waking up of Kae. By the time we get there, it’s over 10.30am. So we have only 15-30 minutes for shopping because it’s far away from Hotel Canton 15-30 though & we have to check out before 12.00am

I dazzle about this shopping street It’s very atrractive & alert my organ for buy & buy. There’s a plenty of retial products, most in the world. Even we have 5 hours, it’s not enough. Why didn’t we come here since yesterday?

   

While I’m waiting for Kae choosing her bag, only last 10 min we gotta leave. I see a black Nike’s bag. I may contain many things out of existed bag but I don’t quite want it, so I asked vendor "Tua-Sao-Chean?" (ตัวเส่าเฉียน) She gave me the price more than 200RMB(Y) I feel nothing to that bag but she asked me how much I can give her, so I said 50Y ultimately & she acted I-YA (ไอ้หยา) How could I give her such this price (นี่มันไนกี้ ไม่ใช่ไนจงกั๋วหน่า ให้ไม่ได้หน่า) Her face looked like bad, it seemed like I’m cruel bargainer. อ่า เหวินก็ไม่เอาของหนี่หรอกนะ เหวินไม่ได้อยากได้ซักเท่าไหร่

When I was gonna leave the shop … come come please get that one, 50Y is ok อะไรฟะ เมื่อกี๊ยังทำหน้า ไอ้หย๊า น่าเชื่อว่าเราให้ราคาโหดอยู่เลย คนจงกั๋วนี่มันยังไงเนี่ยะ เล่นละครเก่งชมัดเลย ก็เลยได้กระเป๋าเดินทางไนกี้(จีน) ของไม่แท้มาในราคา 200 กว่าบาท ก็โอหล่า เสียดาย รองเท้าที่ซื้อมา 2 คู่ ไม่น่าเกิน 199 บ้านเราเลย น่าจะมีเวลาเดินดูหลายๆ ร้านหน่อย จะได้ไม่ต้องเสีย 110 หยวนเป็นค่ารองต๊ะ 2 คู่นั้น สรุปแล้ว ซื้อกระเป๋ามา ของที่ใส่ ส่วนใหญ่ก็ของน้องทั้งนั้น 555

ตอนเดินซั่ง (ซ่าง ซ้าง ซ่ง)เซี่ยจิ่วนี่ เกิดคำถามนึงว่า "คนเหล่านี้จะต้องตกนรกหมดจริงๆ หรือ?" เพราะคนจีนอีกมากที่ไม่เคยได้ยินเรื่องพระเยซูเลย และที่ตรงนั้น ผู้คนเดินขวักไขว่กันล้านแปดหน้าตา ประชาชนคนจีงงงเนี่ยะ เยอะจริงๆ เลย ทำยังไงเค้าจะได้รับความรอดล่ะเนี่ยะ … คนตกนรกเยอะขนาดนี้จริงๆ หรือ? แล้วต้องตกนรกในวันนั้นจริงๆ หรือ?

After shopping, we catched taxi for checking out the hotel in time by praying all time cuz first round is traffic jam. Thank God! When we pay the cost of hotel. They calculated in RMB(Y) but it’s not enough, so we changed to be Dollar. The staff is so moody & break the paper strongly ทำหน้ายักษ์ ขยำกระดาษขว้างลงตรงนั้น Ooops … ถ้าเป็นบ้านเรา คงมีเรื่องไปแล้ว แต่นี่เค้าว่าคนจีนก็เป็งอย่างนี้แหละ

ส่วนแผนการตอนบ่าย คงจะได้ท่องเที่ยว สวน พิพิธภัณฑ์ หรือสวนสัตว์ อะไรแนวนี้ซักหน่อย เพราะไฟลท์ก็ตั้งดึกมาก แต่ผู้ใหญ่คนนั้นไม่ยอม และไม่ยอมแปลบอกคนขับให้จอดด้วย แวะให้แต่ 7-11 ซื้อลูกชิ้นกะนม 25 หยวน แล้วก็ต้องไปแกร่วสนามบินตอนบ่ายๆ แล้วก็เลื่อนไฟลท์สามทุ่มมาเป็นหกโมงเย็น จบข่าว


ถ้าไม่มีพระองค์ คงตายไปนานแล้ว

ตั้งใจจะไม่เปิดคอมฯ เด็ดขาด แต่ก็มีเรื่องที่ทำให้ต้องเปิดจนได้ … เฮ้อ หุบเขาเงามัจจุราช
คนอย่างเรา ถ้าไม่มีพระองค์ คงต้องตายลูกเดียว หัวใจที่อ่อนไหว บอบบาง เจ็บปวดรวดร้าวถึงข้างใน
4-5 เดือนมาแล้ว ที่ไม่มีเรื่องต้องน้ำตาตก เว้นแต่ซาบซึ้งใจยามนมัสการ มันคงนานเกินไป ถึงได้กลับมาอีก
นึกว่าชินชาจนเจออะไรหนักๆ ก็ไม่เป็นอะไรอีกแล้ว เราจะเจอเรื่องยากกว่าได้ต่อไป
แต่ครั้งนี้ ได้แต่บอกพระองค์ ว่าถ้าลูกต้องเจ็บเหมือนครั้งนั้น ลูกอาจจะตายได้ เพราะลูกไม่อยากเจ็บอย่างนั้น หรือมากกว่านั้น
ทุกอย่างของลูกเป็นของพระองค์หมด ร่างกาย จิตวิญญาณ จะทำอะไรก็ได้ทั้งนั้น แต่ลูกเป็นคนที่รับความรู้สึก มันเจ็บ เจ็บจังเลย

"พระองค์ได้ทรงอดทนต่อกางเขน เพื่อความรื่นเริงยินดีที่ได้เตรียมไว้สำหรับพระองค์
ทรงถือว่าความละอายนั้นไม่เป็นสิ่งสำคัญและพระองค์ได้ประทับ ณ เบื้องขวาพระที่นั่งของพระเจ้า
"
[Heb 12:2]

การทรงเรียกของพระองค์ ไม่มีคำว่า โรยด้วยกลีบกุหลาบ คันไถที่ต้องจับ ต้องเดินไปข้างหน้า
พระองค์เสด็จเข้ามาในโลก รับความอับอาย ไม่มีใครเข้าใจพระองค์ แต่สุดท้ายก็สำเร็จตามน้ำพระทัย
ก็ดี … มีเรื่องให้คนในโลกไม่เข้าใจมากๆ เราจะได้เข้าใจพระองค์มากยิ่งขึ้น พระเยซู ที่รักของลูก

1 Comment »

Twisted Emotion in Guangzhou – เริงร่าในกว่างโจว 广州

Today (Apr 11th, 2008). Thank God that we accomplished the work perfectly.

I rised up in the morning to prepare myself for working today. Little sis was not ready to go with us & wanna continue on the bed. Then I & 2 persons journey to Zhongshan together. The driver hurried to the factory, so we spent only 1.30 hours to get Nipon. Ina was absent to join Canton Fair & Maggie’s on behalf of company instead. She’s still young but look OK for co-operation. Moon succeeded her purpose to come. This is the first supplier that we gotta be host of this lunch.  We almost ate strange foods if I didn’t go to point the boxes of animals.

After finish, everybody felt free & happy, wanna shopping if we go back to Guangzhou again. I found little sis didn’t go to shopping previoiusly but rested in the small room of hotel all day. So we bring her to outside & shopping together cuz we live around Beijing Lu.

   

For dinner, we look at crowded food shop & made up our mind to us hand language to order the cups of noodle, only 18Y with 3 bowls. After that, I bought many clothes, wallets, bags, plug & white watch with a bit of pocket-money. Little sis shopped for her friend by buying brand name pouches, electronic goods & mp3 player. I had no money enough to buy VERY CHEAP iPHONE!!! They gave me price @650Y (3,250THB) if I bargain, I might get it about 400Y (2,000THB) even its price in Thailand about 28,000THB (5,600Y)

Small shop in the small lane, we met the shop that they can speak Thai fluently cuz many thai shoppers visit their shop everyday. There is a woman who has been in Thailand twice. She firstly gave us the over price & I guided little sis to bargain 20%, from 600Y to be 100Y. Finally, she revealed herself she understand thai conversation & sold her goods at 100Y & I bought her bag at 60Y as well.

If we still have money, we must go ahead with another corner for sure.

Leave a comment »

First Night @Shengzhou in Shaoxing (绍兴 – 嵊州)

ออกจากบ้านตั้งแต่ตี 5 ครึ่ง ถึงไป่หยุนแอร์พอร์ทที่กว่างโจวราวๆ เกือบเที่ยง รอๆๆ และต่อเครื่องบินอีก 2 ชั่วโมง กว่าจะถึงหังโจวก็ 6 โมงกว่าๆ แล้ว ตอนแรกคิดว่าผู้หญิงที่มารับที่สนามบินเป็นเวนดี้ แต่เอ ทำไมเราทักทายกลับเหมือนจำกันไม่ได้ แถมไม่ยอมพูดภาษาอังกฤษเลยซักคำ มารู้ทีหลังตอนนั่งรถมาพักใหญ่ว่าเธอเป็นคนขับรถต่างหาก ดีว่ามีคนพูดแมนดรินไปด้วยคนนึง

อากาศที่นี่ดีมากๆ เย็นสบาย บ้านเรือน ทิวทัศน์สวยงามตลอดทาง ทุกครัวเรือนมี Solar Cell ใช้งาน เป็นบ้านสไตล์ยูโรปผสมจีนนิดๆ เหมือนหมู่บ้านดิสนีย์แลนด์ สีสันน่ารักทีเดียว ใช้เวลาจากสนามบินไปถึงโรงแรมเฉิงโจว (嵊州) ในเขตเช่าซิ่ง (绍兴) เกือบๆ 2 ชั่วโมง ก็ได้พบกับเวนดี้ตัวจริง รวมทั้งเจ้าของโรงงานที่จะสั่งของ หม่ำข้าวมื้อใหญ่ เป็นการต้อนรับอย่างอบอุ่น แบบว่าเลี้ยงขนาดนี้ ไม่ซื้อของเขาคงไม่ได้

   

มาเมืองจีนทีไร รู้สึกเหมือนบ้านตัวเองจริงๆ เพราะคนที่นี่หน้าตาเหมือนวงศาคณาญาติทั้งหลาย คนจีนส่วนใหญ่จะหน้าใสกิ๊ง ตั้งแต่เด็กยันคนแก่ แก้มแดงกันตั้งแต่เด็กยกกระเป๋า เด็กโรงงาน จะลำบากก็แต่ เราพูดภาษาจีนมะค่อยได้ เพราะคนที่เมืองเฉิงโจวนี้ ถนัดพูดกันแต่ภาษาเขา เว้นแต่พนักงานโรงแรมตรงหน้าเคาท์เตอร์บางคน ที่พูดจีนคล่องกว่าคนทั้งเมือง

อันที่จริง เมือง เช่าซิ่ง กับเมือง หังโจว ที่ว่านี้ อยู่ในมณฑลเจ๋อเจียง ซึ่งอยู่ทางตอนเหนือใกล้กับ ซ่างไฮ้ (เซี่ยงไฮ้) เป็นมณฑลที่เจริญมากทีเดียว โดยเฉพาะเรื่องของอุตสาหกรรมต่างๆ นอกจากนี้ ยังดังเรื่องผ้าไหม และแหล่งกำเนิดชาหลงจิ่งอันเลื่องลืออีกด้วย มีบริการ Taxi, Subway, Metro, Mail Bus, รถไฟ, เรือ, ฯลฯ มากมายทั่วเมือง ทั้งที่เป็นเมืองที่มีนักท่องเที่ยวมากมาย แต่ไหงไม่มีสายการบินตรงจาก กรุงเทพ-หังโจว บ้างหนอ? อ่อ…แท็กซี่ที่นี่ start แพงกว่าเมืองอื่นๆ ที่ 10 หยวนเลยล่ะ (กวางเจา 7)

แพลนตอนแรก กะจะลงที่หนิงโป แล้วค่อยมาทางหังโจวขากลับ แต่ดูระยะทางและเวลาแล้ว เลยตัดดูโรงงานนึงที่หนิงโปออกไป เลือกไป-กลับที่หังโจวอย่างเดียวซะเลย

เอาล่ะ มีอะไร ค่อยมาต่อกันคราวหน้านะจ๊ะ … ขอบคุณพระเจ้าสำหรับทุกอย่าง

3 Comments »

Kiss the Feet

ตอนเด็กๆ เคยคิดเสมอ ว่าจะมีวันนึงมั๊ย ที่ฉันจะกลายเป็นคนดี ดี ดี๊ ดี เหมือนกับ ศ.บ. ที่โบสถ์

จนวันหนึ่งก็ได้พบว่า ความดีมาจากพระเจ้า เราไม่สามารถเป็นได้เอง และมีเรื่องสำคัญกว่านั้น

พระคริสต์ได้ตายแทนความบาปของเรา พระองค์สมควรแก่การสรรเสริญยิ่งนัก

ในความไม่ดีของเรา ในธรรมชาติมนุษย์ของเรา เราได้เห็นพระองค์ดีเพอร์เฟค และสิ่งที่พระองค์ทำแทนเรา

บนไม้กางเขน

เรามีชีวิตอยู่เพื่อกวายเกียรติพระองค์ในทุกๆ ทาง อะไรก็ได้ที่ทำให้พระเจ้าได้รับคำยกย่อง คำสรรเสริญ

จนวันนึง ก็คิดว่าตัวเองผิดพลาดอย่างแรง กับความอ่อนแอของเนื้อหนัง ทำตัวงี่เง่า และแย่มากในสายตาคนอื่น

คนบาปที่ทำชั่วอย่างนี้ ยังมีหน้าจะนมัสการพระเจ้าเช้าวันรุ่งขึ้นที่คริสตจักรอีกหรือ ….. และฉันก็ได้พบคำตอบ

คนบาปนั้นแหละ ที่เทหัวใจร้องเพลงนมัสการพระเจ้า ต่อหน้าคนที่เราไม่น่าจะกล้า

ไม่กลัวเค้าจะคิดหรือไง ว่าคนมีพระเจ้า แล้วยังทำชั่วได้อีกหรือ? ทำไมจึงยังกล้านมัสการล่ะ?

ขอบคุณพระเยซูที่นำเราเข้าไปยัง Holy of Holy Place สถานที่แห่งความรักที่โอบล้อมมนุษย์คนนึง

พระโลหิตอันบริสุทธิ์ของพระองค์ทำให้พระเจ้าพอพระทัย ไม่ใช่การกระทำของเราเองที่น่าพอใจ

มีเวลามากมายที่เราเสียไปกับสิ่งที่คิดว่าสำคัญ ทั้งที่มันเป็นสิ่งที่ไร้สาระ

มีเวลามากมายที่เราคิดว่าเราได้ทำเพื่อพระเจ้า แต่สิ่งสำคัญที่สุดกลับถูกละเลย

เรารับใช้กันมากมาย เราหวังให้พระเจ้าพอพระทัย แต่ความสัมพันธ์และชีวิตนั้นขาดหายไปทุกวัน

นี่เป็นอีกครั้งหนึ่ง ที่เห็นพระองค์ยิ้ม  พระองค์ยิ้มให้ลูกคนนี้ตลอดเวลา ที่เบื้องพระบาทพระองค์

ขอบคุณพระเจ้า ที่ได้เอาเส้นผมเช็ดพระบาท เคล้าน้ำตาทุกๆ หยด จากก้นบึ้งของหัวใจ

"สิ่งซึ่งต้องการนั้นมีสิ่งเดียว" ที่ได้เห็นพระพักตร์พระองค์เปี่ยมด้วย "รอยยิ้ม"

ฉันอาจจะไม่ได้จุมพิตที่พระพักตร์ ไม่ได้จุมพิตที่แก้มบริสุทธิ์ของพระองค์ในครานี้

แต่การที่ฉันได้จุมพิตที่พระบาทของพระองค์ ดีกว่าที่ฉันได้จูบของที่มีค่าทั้งสิ้นในโลกเลย

แค่เพียงแตะต้องฝุ่นละอองที่พระบาท ยังสัมผัสพลังยิ่งใหญ่ จนทุกอย่างที่เคยมีเป็นหยากเยื่อราคีเท่านั้น

พระเจ้าคะ ขอบคุณพระองค์สำหรับรอยยิ้ม  ขอยิ้มให้กับลูกตลอดไป ไม่ว่าลูกจะเป็นอย่างไร

   

ไม่ได้คาดหวังอะไรเหมือนใครกับโอกาสพิเศษในการมีค่ายที่พัทยา Apr 5-7th, 2008
เพราะไปค่ายคริสตจักรตั้งแต่เด็กทุกปี ปีละหลายๆ ค่าย จนรู้ว่าค่ายไหนที่เราจะตื่นเต้น
อีกทั้งที่จริงต้องเดินทางไปจีนตั้งแต่ 5 แล้วเลื่อนไปเป็น 8 รวมทั้งอะไรหลายๆ อย่าง
กว่าจะรวมพลไพล่ ใครไป ใครไม่ไป วุ่นวายกันพอแล้ว

แต่สิ่งหนึ่งที่พระเจ้าให้เสมอในความไม่คาดฝัน คือสิ่งที่ตาไม่เห็น หูไม่ได้ยิน และคิดไม่ถึง
บางครั้งไปอธิษฐานวันศุกร์ มาแต่ตัว หัวใจไม่มี พระเจ้าก็ยังอวยพรจนวิญญาณกระเตื้อง
ค่ายก็เหมือนกัน ขอบคุณพระเจ้า … พระพรเราอาจไม่เหมือนคนอื่น แต่ก็ถือว่าได้ไม่น้อย
คือการได้เห็นน้องๆ ยกมือ เต้นโลด ถวายหัวใจในการนมัสการต่อพระเยซูอย่างไม่เคยเห็นที่โบสถ์
รวมทั้งได้เห็นน้องสาวคนหนึ่ง เติบโตขึ้นกับพระเจ้า ได้สัมผัสความรักพระองค์ และมีหัวใจพระเยซู
ขอพระองค์นำน้องออกจากโลก และเลือกเขาไว้ให้เป็นอันหนึ่งอันเดียวกับพระบิดา

เรื่องที่สลับซับซ้อนบางอย่าง ยังคงดำเนินไปท่ามกลางความคาใจ
ยุคสมัยที่เปลี่ยนไป อะไรๆ ก็บิดเบี้ยวจนยากจะแยกแยะ และเก็บเป็นเงื่อนงำต่อไป
พระเจ้าข้า ขอโปรดประทานสติปัญญากับลูกด้วยเถิด เพื่อเอาชนะวันชั่วร้ายอย่างมีชัย

1 Comment »