Popsyz ::: This Blog is Now Yesterday.

Move from MSN space, daily update nothing

Tithing from Kiyosaki – สิบลด พ่อรวย สอนลูก

Robert Kiyosaki เจ้าของงานเขียน Rich Dad เขียนถึงการถวายสิบลดไว้ในหนังสือของเขาอยู่ตอนหนึ่ง (ซึ่งไม่รู้ว่าภาษาไทยแปลตามความหมายนี้มั๊ย เพราะงานเขียนเชิงบริหารมักจะถูกแปลข้ามมุมมองพระคัมภีร์เป็นอย่างอื่นไปซะหมด และเราก็ไม่เคยอ่าน Rich Dad ครบทุกเล่ม เพราะไม่ได้ซื้อ และอาศัยอ่านของคนอื่นเอา) ว่า

"As far as tithing goes, we continue to donate a large percentage to charitable organizations. It’s important to give. As my very religious friend says, "God does not need to receive, but humans need to give." Also, the reason we give is because tithing is our way of paying our partner — God. God is the best business partner that I’ve ever had. He asks for 10 percent and lets me keep the other 90 percent. You know what happens if you stop paying your partners? They stop working with you. That is why we tithe."

พยายามจะแปลเป็นไทยได้ว่า "การถวายสิบลด (10% ของรายได้) คือวิธีที่เราจะจ่ายให้กับหุ้นส่วนของเรา คือ พระเจ้า พระองค์เป็นหุ้นส่วนธุรกิจที่ยอดที่สุดที่ผมมี พระองค์ขอเพียง 10% และให้ผมเอาไปใช้อย่างอื่นตั้ง 90% คุณรู้มั๊ยว่าเกิดอะไรขึ้น ถ้าคุณหยุดจ่ายให้กับหุ้นส่วน พวกเขาก็จะหยุดทำงานกับคุณ นั่นเป็นเหตุผลที่เราถวายสิบลดกัน"

มีเพื่อนที่เคยไปโบสถ์และเชื่อเรื่องสิบลด เค้าถวายเงิน 10% ให้กับคริสตจักรทุกๆ เดือน แม้จะไม่ได้เป็นคริสเตียนเลยก็ตาม ทุกวันนี้ เพื่อนคนที่ว่าประสบความสำเร็จเรื่องการเงินในเมืองที่ธุรกิจรุ่งเรืองที่สุดของโลก … แต่ถ้าเราเลือกแทนเขาได้ อยากเลือกให้เขาได้รู้จักพระเจ้า และได้รับความรอดมากกว่า เพราะ Kiyosaki ก็เป็นชาวญี่ปุ่นที่โตในฮาวาย (เป็นเมืองที่ชาวญี่ปุ่นส่วนใหญ่เป็นคริสเตียน) ได้ซึมซับแนวคิดจากพระคัมภีร์มาหลายอย่าง เค้าหยิบบางสิ่งบางอย่างมาใช้ แต่ก็ไม่ได้เป็นคริสเตียน

เช่นเดียวกับกระแสของหนังสือ The Secret ความลับที่ทำให้คนมากมายประสบความสำเร็จในชีวิตถึงจุดสุดยอด นั่นคือ "พลังของความเชื่อ" ชีวิตของนักธุรกิจมีแรงมุ่งมั่นปรารถนาอย่างหนึ่ง ที่ก้าวข้ามคำว่า "ท้อ" และมันก็คือสิ่งเดียวกัน

ในพระคัมภีร์นั้น เป็นต้นแบบของการสอนเรื่องความเชื่อ ที่ไม่เคยมีใครสอนมาก่อนในอดีตกาล พระคัมภีร์มีคำสอนมากมายที่ชาวโลกมาค้นพบทีหลังเมื่อหลายพันปีผ่าน … ในพระคัมภีร์สอนเรื่องชีวิตที่ครบบริบูรณ์ (Prosperity: Health, Success, Wealth, etc.) ผ่านความเชื่อในพระเยซูคริสต์ คุณมีสิทธิ์โดยพระคุณ คนที่เชื่อก็จะได้ เพราะความเชื่อนำมาให้ได้ทุกสิ่ง สำหรับบางคนที่เชื่อว่ายากจนทนทุกข์เพื่อพระเจ้า เขาก็จะเป็นอย่างนั้น (ผู้รับใช้หลายคนสอนเรา และบางองค์กรแอนตี้เรื่อง Abundant Life สิ้นเชิง) สำหรับเรา เราขอเชื่อทุกสิ่งตามพระสัญญาของพระเจ้า

แต่อย่างไรก็ดี ความเชื่อ ที่พระคัมภีร์สอน ไม่ใช่เพียง ชีวิตที่รุ่งเรือง แต่รวมถึงความเชื่อในความรักของพระเจ้า เชื่อว่าพระเจ้าทรงอภัยบาปผิดของเราทางพระเยซูคริสต์ เราจึงไม่มีกรรม ไม่มีบาป และจะได้ชีวิตนิรันดร์ อยู่ร่วมกับพระองค์เมื่อเราจากโลกนี้ไปแล้ว … น่าเสียดายมาก หากจะหยิบบางส่วนในไบเบิ้ลมาใช้ให้ชีวิตประสบความสำเร็จในบางเรื่อง แต่มองข้ามสิ่งที่สำคัญที่สุด ที่พระเจ้าปรารถนาจะให้ทุกคน "Eternal Life"

ของแถม: พ่อรวยฉบับชอปปิ้ง AIIZ จากประสบการณ์ Mall BKP

พนักงาน AIIZ:  ซื้อสินค้าของเราวันนี้วันเดียวเท่านั้น ซื้อ 1 แถม 2 ค่ะ หรือจะเลือกลด 70% ก็ได้
ลูก:  พ่อคะ โปรโมชั่นลดเยอะจังเลย หนูอยากซื้อค่ะพ่อ
พ่อจน:  พ่อก็ว่าดีนะ น่าจะถูกกว่ายี่ห้ออื่นที่ลด 50-80% เลยล่ะ ซื้อ 1 ได้อีกตั้ง 2
ลูก:  งั้นลูกซื้อซักชิ้นนะคะ แถมตั้ง 2 ตัวแน่ะ
พนักงาน AIIZ:  ถ้าซื้อ 1 แถม 2 ต้องจ่ายตัวแพงสุดนะคะ แถมตัวแพงกว่าไม่ได้
ลูก:  งั้นหยิบทั้ง 3 ชิ้นที่ราคาเท่ากันเลย จะได้คุ้มๆ ตอนแรกกะหยิบ 1000, 700, 500 แต่จะหยิบราคา 1000 ทั้งสามตัวเลย
พ่อรวย:  พ่อว่าลูกหยุดคิดซักนิดก่อนดีมั๊ย ว่าซื้อ 1 แถม 2 กะเลือกลด 70% อันไหนจะคุ้มกว่ากัน
ลูก:  ค่ะพ่อ แต่ยังไง หนูก็ว่าซื้อ 1 แถม 2 ก็คุ้มอยู่แล้วล่ะ
พ่อรวย:  สมมุติว่าลูกจะซื้อสินค้าที่เลือกได้ 3 ชิ้น ราคาต่างกัน ลูกจะเสียเปรียบกว่าการเลือก 3 ชิ้นราคาเดียวกัน
           แต่การซื้อ 3 ชิ้นที่ว่านั้น ลูกจะได้ของที่ลูกเองไม่ได้ต้องการที่สุด แต่เลือกเพราะแรงจูงใจในโปรโมชั่น
ลูก:  (ลังเล นับนิ้วมือและเท้า )
พ่อรวย:  ของโปรโมชั่น มีแต่แบบที่ทางร้านโละ จะขายให้หมดอยู่แล้ว ยิ่งถ้าลูก "จำต้องซื้อ" สินค้าที่รองจากความต้องการ
            ก็เท่ากับช่วยเอาขยะออกจากร้านเขา แถมยังจ่ายเงินค่าขยะของเราให้เขาอีกต่างหาก
พ่อจน:  แต่ซื้อราคาเดียวกัน มันก็คุ้มกว่าซื้อราคาต่างกันนา
ลูก:  แล้วเอาไงดีคะพ่อ ถ้าอยากจะซื้อ เพราะอยากได้เสื้อสีชมพูตัวนั้นจริงๆ
พ่อรวย:  แล้วลูกลองคิดดูรึยังล่ะ ว่าถ้าลด 70% จะคุ้มกว่ามั๊ย?
ลูก:  อืมมม…สมมุติลูกซื้อเสื้อราคา 1000 เท่ากันมา 3 ตัว แบบที่คิดว่าคุ้มกว่าซื้อราคาต่างกันแล้ว
         เท่ากับลูกจ่ายตังค์ให้ร้านแค่ 1000 บาท
พ่อรวย:  แต่ถ้าลูกซื้อ 1000 บาท x 3 ตัว แล้วเลือกลด 70%
         ทั้งหมดราคา 3000 ลดไป 2100 ลูกจะจ่ายแค่ 900 บาทนะจ๊ะ
ลูก:  โอ้โห … จริงหรอเนี่ยะ น่าจะคิดตั้งแต่แรกแล้วเนอะ คุ้มกว่าจริงๆ
พ่อรวย:  นอกจากลด 70% คุ้มกว่า ซื้อ 1 แถม 2 แล้ว ลูกยังเลือกสินค้าราคาต่างกัน มีตัวเลือกมากขึ้นอีกนะ
ลูก:  พ่อจ๋า … ขอเงินหน่อยสิ 900 บาทละกัน (ใช้โปรหลัง ถ้าอีก 2 ตัวถูกกว่า ก็ยังเหลือเงิน )
พ่อจน:  อืมมม … รู้แล้วว่าทำไมฉันถึงเป็นพ่อจน เพราะมันมาขอตังค์ฉันคนเดียวนี่ฝ่า!!!

7 Comments »

Abraham – Father of All who have faith in Christ

Thank God for the worship time & sermon on last Sunday. It’s really special for me.

You emphasized me to realize my calling since last 4 years that I nearly forget now.

Abraham left his family @Ur without listening how they blame,
he obeyed God to go to unknown place.
It’s such a stupid decision in the other sights, huhhhhh???

I have the purposes, many many but I abandoned all since I’ve found the treasure hidden in the field that Jesus said.
I love to study robotics in MD/doctor & develop great business to rule the world such Microsoft & Google … ha ha haaa
But I was just an office girl in the traffic city. In that time, You called me to be …..*****…..
and I started journey to the destination I never plan. Then, I feel like Abraham in weakness, still sin & mistake in trial.
I tried to see the promised land while God always tell me to keep walking. He says it’s by faith, not by sight.

Preacher mentioned about TEST time, the word that I’m interested is
"The Measure of Faith of Abraham,
he trusted the LORD as much as he believed that God can make Issac alive after the death!!!"

I don’t know the size of my faith but even Abraham lied, he’s still the father of us all …

Oh Lord, teach me to trust & obey you this 2010 … it’s the blessed year supernaturally!

2 Comments »