Sub Thai Leviticus 27:29 from CSI NY Season 4 EP20

อืมมม การแปลไทยจากซีรีย์ฝรั่ง หรือหนังฮอลลีวู้ดหลายๆ เรื่อง ฟังแล้วน่ามึนจริงๆ

CSI New York Season 4 ตอน “Taxi” ขณะที่นักสืบแมค เทเลอร์ ไล่จับ Serial Killer หรือ ฆาตกรต่อเนื่องมาจนตอนสุดท้าย ฆาตกรพูดข้อความจากพระคำ เลวีนิติ 27:29

ในหนังแปลว่า “มนุษย์ที่ตายไปแล้ว หมดสิทธิ์ที่จะกลับมาเกิดใหม่ พวกเขาจำเป็นต้องถูกฆ่า”

เฮ้อ … พระคัมภีร์ภาษาไทยเวอร์ชั่นมาตรฐาน 1971 แปลว่า

“ผู้ใดที่ถูกถวายขาดแล้ว คือผู้ที่ต้องทำลายเสียจากมนุษย์อย่าให้ไถ่ถอนผู้นั้น ผู้นั้นต้องถูกโทษถึงตาย”

NKJV “No person under the ban, who may become doomed to destruction among men, shall be redeemed, but shall surely be put to death”

หมายถึงการมอบถวายสิ่งใดแก่พระเจ้าแล้ว จะขายหรือมอบให้แก่สิ่งใดไม่ได้อีก เพราะสิ่งนั้นถือเป็นของพระเจ้า และเป็นสิ่งบริสุทธิ์ที่พระเจ้ายอมรับแล้ว

หลายครั้ง เวลาดู Serie ฝรั่งพวกนี้ เจอข้อพระคัมภีร์แปลผิดๆ แล้วอยากจะเปลี่ยนอาชีพจริงๆ เลย (-_-“)

ทำไมมันเจ็บอย่างนี้???

ทำไมนะ ความเจ็บปวดบางอย่างที่เราไม่ได้ตั้งรับ

มันถึงได้เจ็บใจจะขาด … คนเรามีชีวิตอยู่ด้วยความเจ็บปวดได้นานแค่ไหนกัน

คุณเห็นอะไรในตาคนจีน???

เดี๋ยวพรุ่งนี้จะมาเฉลยใน blog นี้แหละ

I nearly hate Windows Live!

I never think that Windows Live will treat me like this.

First, it gave me short URL
http://popsyz.live.com/ and change to http://popsyz.spaces.live.com/

And then it moves my 5 years blog to WordPress, all setting, bookmark, vdo links and favorite detail are lost!

It changes from popsyz.spaces.live.com to popsyz.wordpress.com.

All my CSS design must be changed also!

Strengthen Me – เสริมกำลังหน่อยค่า

Heavenly Father คะ

 

ลูกเหนื่อยจังเลย ทำงานรับใช้มากกว่าคำอธิษฐานเยอะเลย

 

ต้องการพระคุณมากขึ้น ต้องการกำลังเรี่ยวแรงมากขึ้น

 

เปาโล บอกว่าข้าพเจ้าทำงานมากกว่าคนอื่น (1 โครินธ์ 15:10) เพราะพระคุณพระเจ้าในตัวเขา

 

คนบางคน ดีกับเรา เอาใจเรามากเลย (ขอไม่เอ่ยชื่อ) เป็นคนใกล้ตัว เมื่อเวลาที่เรามีเงินให้เขา เป็นที่พึ่งพาได้

 

พอเราจน ก็ปฎิบัติกับเราเหมือนเป็นอีกคนนึง อีกระดับนึง … ก็ดีเหมือนกัน จะได้รู้ว่าใครเป็นยังไง

 

ขอบคุณพระองค์ ที่อย่างน้อยที่สุด คุณแม่ก็ไม่ใช่คนแบบนั้น และเราก็ได้เห็นความรักของแม่จริงๆ เมื่อยามลำบาก

 

ขอบคุณพระบิดา ที่พระองค์ยังรักลูก patient & kind แม้ลูกจะเป็นคนไม่ดีเท่าไหร่ ยังไง ลูกก็เป็นลูกพระองค์แล้ว

Abba Father VS Spirit of AntiChrist – พระบิดา และ แอนตี้ไครส์

เมื่อ 2 เดือนก่อนได้คิดใคร่ครวญเรื่องหนึ่งอยู่บ่อยๆ

แรกเริ่มจากได้อ่านคำพยานในประเทศเอเชีย ที่สามีในศาสนาหนึ่ง (ที่นับถือพระเจ้าผู้สร้าง แต่ไม่รับพระเยซู) ฆ่าภรรยาตัวเองตาย เพราะอ่านไบเบิ้ลอย่างสนใจ พร้อมกับฝังลูกน้อยคนโต 10 ขวบ และคนเล็กที่ยังเป็นทารก ทั้งเป็นไว้ในหลุมศพที่ฝังภรรยา ผ่านไป 10 วัน มีคนสืบทราบ จึงตามมาขุดหลุมศพ และต้องอัศจรรย์ใจ เมื่อพบว่าเด็กทั้ง 2 นั้นยังไม่ตาย!!! และเด็กคนโตบอกว่าทุกวันจะมีคนที่ใส่ชุดขาวนำขนมปังมาให้ และปลุกให้แม่มาให้นมน้อง

สอง ผู้เขียนหนังสือคริสเตียนท่านหนึ่งกล่าวว่า AntiChrist ในยุคสุดท้ายนั้นคือ ศาสนาหนึ่ง ที่ไม่ยอมรับความเป็นพระเจ้าของพระเยซู และศาสนานี้จะทวีมากขึ้นในวาระที่พระเยซูใกล้จะเสด็จกลับมา เหมือนข้อพระคำที่บอกว่า "ตามที่ท่านทั้งหลายได้ยินได้ฟังมาว่า ปฏิปักษ์ของพระคริสต์จะมีมา บัดนี้ปฏิปักษ์ของพระคริสต์ก็มีมามากแล้ว ฉะนั้นเราจึงรู้ว่าบัดนี้เป็นวาระสุดท้ายแล้ว" [1 John 2:18]

สาม เพื่อนรุ่นเดียวกันซึ่งเคยนับถือศาสนานั้น (ตอนนี้มาเป็นคริสเตียน) เล่าให้ฟังว่ากลับบ้านต่างจังหวัด ขณะที่นอนข้างๆ คุณแม่ซึ่งนับถือศาสนาเดิมของเธอ เธอฝันว่ามีผู้หญิงคนนึงนอนอยู่ข้างเธอซึ่งไม่ใช่แม่ และเถียงกับเธอว่าพระเยซูไม่ใช่พระเจ้า แต่เพื่อนก็เถียงกลับไปว่าพระเยซูเป็นพระเจ้า จนเธอตื่น ก็เหนื่อยมาก เหมือนสู้กันจริงๆ … และพระเจ้าก็เปิดเผยภายหลังว่า วิญญาณที่เธอต้องต่อสู้ ชื่อว่า "วิญญาณ AntiChrist" หรือ "ปฎิปักษ์พระคริสต์"

เมื่อเริ่มคิดใคร่ครวญ 3 เหตุการณ์นี้ ก็มาถึงจุดนึงที่ "ความกลัว" เริ่มก่อตัว กลัวว่าวิญญาณตัวนี้แรง ที่เราจะต่อสู้ด้วย แต่พระเจ้าก็สำแดงให้เห็นว่า วิญญาณชนิดนี้ มีมาตั้งแต่สมัยของพระเยซูเอง พวกฟาริสี ธรรมาจารย์ ที่รู้เรื่องกฎแห่งศาสนาเป็นอย่างดี ต่างก็ไม่ยอมรับพระเยซู ว่ามาจากพระเจ้า หรือเป็นบุตรของพระเจ้า แต่พระเยซูก็สามารถผ่านช่วงเวลาต่างๆ ไป โดยพวกนี้ไม่สามารถทำอะไรพระองค์ได้ จนกระทั่งน้ำพระทัยพระเจ้านั้นสำเร็จที่ไม้กางเขน!!!

ขอบคุณพระเจ้าสำหรับการเปิดเผย และไม่เพียงแค่นั้น "ถ้าพระเจ้าเป็นพระบิดาของท่านแล้วท่านก็จะรักเรา เพราะเรามาจากพระเจ้า และอยู่นี่แล้ว" [John 8:42] ข้อนี้หมายความว่า คนที่มาจากพระเจ้าจริงๆ จะรัก "พระเยซู" ด้วย เพราะพระเยซูมาจากพระเจ้า

คนที่เชื่อพระเจ้า แต่ไม่เชื่อพระเยซู คนเหล่านั้น ไม่ได้มาจากพระเจ้า และรู้จักพระเจ้าแต่ในแบบ "เกรงกลัว" ที่เหมือนคอยกดรีโมทควบคุมโลก แต่ไม่รู้จักพระเจ้าในรูปแบบความรัก ที่ทรงอ่อนโยน และมีความสัมพันธ์ที่ลึกซึ้งเสมือนเป็นคุณพ่อ พูดคุยกับเราได้ทุกเรื่อง ทุกที่ ทุกเวลา

ความเป็นพ่อ-ลูก ระหว่างพระเจ้าและมนุษย์ เป็นเรื่องที่ลึกซึ้ง และสำคัญมาก ดังที่พระคัมภีร์บอกว่า "ท่านไม่ได้รับน้ำใจทาสซึ่งทำให้ตกในความกลัวอีก แต่ท่านได้รับพระวิญญาณผู้ทรงให้เป็นบุตรของพระเจ้า ให้เราทั้งหลายร้องเรียกพระเจ้าว่า ‘อับบา’ คือพระบิดา" [Rom 8:15] และพระเจ้าก็ประทานสิทธิแก่เราให้เป็น "ลูกพระเจ้า" ผ่านทางพระวิญญาณ และ ทางพระเยซูคริสต์ "แต่ส่วนบรรดาผู้ที่ต้อนรับพระองค์ ผู้ที่เชื่อในพระนามของพระองค์ พระองค์ก็ทรงประทานสิทธิให้เป็นบุตรของพระเจ้า" [John 1:12; Gal 4:6]

1 ยอห์น 4:2-3 "โดยข้อนี้ท่านทั้งหลายก็จะรู้จักพระวิญญาณของพระเจ้า คือวิญญาณทั้งปวงที่ยอมรับว่าพระเยซูคริสต์ได้เสด็จมาเป็นมนุษย์ วิญญาณนั้นก็มาจากพระเจ้า และวิญญาณทั้งปวงที่ไม่ยอมรับเชื่อพระเยซู วิญญาณนั้นก็ไม่ได้มาจากพระเจ้า วิญญาณนั้นแหละเป็นปฏิปักษ์ของพระคริสต์ ซึ่งท่านทั้งหลายได้ยินว่าจะมา และบัดนี้ก็อยู่ในโลกแล้ว"

P.S. // เขียนชงข้างบนมาเรื่อยๆ แล้วมาเขียนอันท้ายตอนดึก โดนมารผจญ เขียนไปงงไปเลย ลงท้ายไม่เหมือนที่คิดไว้ แต่ก็ไม่รู้จะเขียนไงแล้ว